ใน
พื้นที่นาภาคกลางนั้นส่วนใหญ่ชาวไร่ชาวนา
รวมทั้งต้นตระกูลของผู้เขียนเองนั้นก็เป็นผู้ที่มีอาชีพถิ่นฐานทำนาอยู่ใน
ละแวกแถบนี้เช่นกัน
การเพาะปลูกในอดีตนั้นก็ทำกันแบบตามๆกันมา คือใช้ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0
หนึ่งกระสอบ
ใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 อีกหนึ่งกระสอบ หว่านตั้งแต่ข้าวใกล้ระยะแตกกอ
และช่วงข้าวอายุ 50 วัน และอีกครั้งก็ไปใส่ตอนรับท้องโน่นเลย
ผลผลิตที่พี่น้องเกษตรกรชาวไร่ชาวนาภาคกลางซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เขต
ชลประทาน
จึงทำให้สามารถที่จะเพาปลูกข้าวได้ปีละไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง
ส่วนใหญ่ผลผลิตก็จะได้อยู่ที่ประมาณ 800 – 1,000 กิโลกรัม โดยเฉพาะไร่ละ
1,000
กิโลกรัมหรือหนึ่งเกวียนนั้น แทบจะเป็นเรื่องปรกติกันเลยทีเดียว
เนื่องด้วยพื้นที่แถบนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ดินเหนียว
มีปริมาณโพแทสเซียมเพียงพอ
แต่ในปัจจุบันนั้นอาจจะมีปัญหายุ่งยากกว่าแต่ก่อนตรงที่ธาตุอาหารจุลธาตุอาจ
จะลดน้อยถอยลงไปมากพอสมควร
|
จึงทำให้ผลผลิตในระยะหลังๆ นี้
อาจจะลดน้อยถอยลงไปบ้างพอสมควร
จนบางครั้งเกษตรกรบางท่านอาจจะต้องมีการแอบมาใส่ปุ๋ยในตอนกลางคืน
เพื่อแข่งกันปลูกข้าวให้ได้ร้อยถังต่อไร่แข่งกับเพื่อนบ้าน
แต่ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ก็อาจจะประสบพบเจอกับ เพลี้ย หนอน รา ไร แทน
เนื่องด้วยต้นข้าวที่อวบอ้วนจากการกินปุ๋ยมากเกินไป จนทำให้เฝือใบ
งามใบอ่อนแอมากกว่าเดิมนั่นเอง
จนต่อมามีรายงานการวิจัยจากอภิวรรณ จุลนิมิและคณะ, ภาควิชาปฐพีวิทยา, คณะเกษตร,
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, บางเขน กรุงเทพมหานคร, วารสารดินและปุ๋ย 28 :
217-235 (2549)
การตอบสนองต่อปุ๋ยไนโตรเจนของข้าวเจ้าหอมพันธุ์ปทุมธานี 1 ที่ปลูกในชุดดินสระบุรี
ที่เคยมีการใส่ปุ๋ยเคมีสำหรับข้าวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเป็นโครงการวิจัยที่จะมุ่งเน้นการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนเพียงอย่างเดียว
โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยตัวกลางและตัวท้ายเลย แล้วดูว่าข้าวจะให้ผลผลิตออกมาเท่าใด
และในแปลงทดสอบแปลงสุดท้าย N3-2 มีการเติมแร่ธาตุ
ฟอสฟอรัสเพิ่มเข้าไป
6 กิโลกรัม
เพื่อดูความแตกต่างว่าจะให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากแปลงก่อนหน้าที่ใส่แต่ปุ๋ยยู
เรียที่ให้แร่ธาตุไนโตรเจนแต่เพียงอย่างเดียวหรือไม่
ผลการทดลองออกมาแล้วว่า ไม่มีผลแตกต่างใดๆ ทั้งสิ้น
คือไม่ว่าจะเติมฟอสฟอรัส
หรือไม่เติมก็ไม่มีผลต่อการเพิ่มผลผลิตของข้าว
จึงสะท้อนให้เห็นว่าแปลงนาที่ปลูกข้าวในพื้นที่ดินเหนียวไม่จำเป็นจะต้องใส่
ปุ๋ยตัวกลาง
และตัวท้ายให้สิ้นเปลืองเงินแต่อย่างใด
เกษตรกรท่านใดสนใจการปลูกข้าวปลอดสารพิษ
พิชิตต้นทุน โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยตัวกลาง และตัวท้ายเลยในพื้นที่ดินเหนียว
ติดต่อสอบถามมาได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ 0-2986-1680-2 ได้ตลอดนะครับ
คุณมนตรี
บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
|
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556
พื้นที่ดินเหนียวจัด นาข้าวไม่ต้องใช้ปุ๋ยตัวกลางและตัวท้ายก็ได้ไร่ละหนึ่งเกวียน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)