บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ปัญหาอุปสรรคของคนทำเห็ด (ตอน 5.1)ปัจจัยของสิ่งไม่มีชีวิตที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของดอกเห็ด
สวัสดีครับ ... แฟนคลับชมรมเกษตรปลอดสารพิษทั้งเก่า-ใหม่ทุกๆท่านที่ให้ความไว้วางใจสนับสนุนงานวิชาการ สินค้าปลอดสารพิษเสมอมา ผู้เขียนและทีมงานชมรมฯรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านทั้งหลายให้ความอุปการคุณ รวมถึงโอกาสในการนำเสนองานวิชาการ สินค้าคุณภาพในลำดับต่อไป สำหรับบทความวิชาการที่จะนำมาเสนอต่อท่านวันนี้ ผู้เขียนได้พิจารณาคัดกรองแล้วว่ามีความเหมาะสมต่อเกษตรกรผู้เพาะเห็ดโดยเฉพาะเห็ดถุงทั่วทุกภาคที่กำลังประสบปัญหาก้อนเห็ดไม่ออกดอก กล่าวรวมถึงนิสิตนักศึกษา ครูอาจารย์ หน่วยงานภาครัฐเอกชนทุกท่านทุกองค์กรที่ให้ความสนใจหรือต้องการ ลด ละ เลิก ใช้สารเคมีปราบศัตรูโรคพืช การที่ดอกเห็ดจะเจริญเติบโตได้ดีนั้นจะต้องมีปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเห็ดด้วย ฤดูฝนจะเป็นฤดูกาลที่พบการออกดอกของเห็ดในธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งสามารถแบ่งปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเห็ดโดยกว้างๆได้ 2 ปัจจัยดังนี้
ข้อแรก : พันธุกรรม ก่อนทำการเพาะเห็ดจะต้องมีการคัดเลือกสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงและมีลักษณะตามที่ต้องการ เช่น แข็งแรง ปราศจากศัตรูเห็ด ดอกเห็ดตรงต่อความต้องการของตลาด เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อม ฤดูกาล แหล่งที่เพาะนั้นๆ
ข้อสอง : สิ่งแวดล้อม การที่เห็ดจะให้ผลผลิตดอกเห็ดสูงนั้นสภาพแวดล้อมจุดนั้นๆจะต้องมีความเหมาะสม ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สิ่งไม่มีชีวิต และสิ่งมีชีวิต แต่สำหรับตอน 5.1 นี้จะกล่าวถึงปัจจัยของสิ่งไม่มีชีวิตที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของดอกเห็ด
สิ่งไม่มีชีวิต เห็ดเป็นพืชชั้นต่ำจำพวกราไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้อย่างพืชสีเขียวทั่วไป อาหารของเห็ดได้จากการย่อยสลายของอินทรียวัตถุที่ผุพังและอาหารที่เห็ดย่อยง่ายนั้นคือกลูโคส เห็ดหลายชนิดสามารถเจริญได้ดีบนอาหารจำพวกแป้ง เซลลูโลส ลิกนิน แต่สำหรับเห็ดบางชนิดก็เลือกที่ย่อยไม้ มูลสัตว์ และปุ๋ยหมัก
1.1วัสดุเพาะที่ใช้เพาะเห็ดจึงมีความแตกต่างกัน เช่น
-เห็ดที่ขึ้นได้ดีบนท่อนไม้ เช่น เห็ดหูหนู เห็ดหอม เห็ดมะม่วง เห็ดขอนขาว
-เห็ดที่ขึ้นได้ดีบนปุ๋ยหมัก เช่น เห็ดกระดุม เห็ดฟาง เห็ดตีนแรด
-เห็ดที่ขึ้นเนื่องจากการทำกิจกรรมของแมลง เช่น เห็นโคนใหญ่ (เห็ดปลวก)
-เห็ดที่ขึ้นบนรากร่วมกับต้นไม้หรือเห็ดไมคอร์ไรซ่า เช่น เห็ดเสม็ด เห็ดตับเต่า เห็ดตีนแรด
สำหรับวัสดุเพาะเห็ดควรเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นนั้นๆ ราคาถูก ใช้ได้สะดวก เห็ดเจริญเติบโตและพัฒนาให้ผลผลิตสูง อันได้แก่ ขี้เลื่อย ฟางข้าว ซังข้าวโพด ชานอ้อย ทะลายปาล์ม เป็นต้น
1.2อาหารเสริมที่นิยมใช้คลุกผสมในวัสดุเพาะก่อนบรรจุถุงหรือแปลงเพาะเห็ดฟาง อย่างเช่น
-รำละเอียด จะให้อาหารพวกโปรตีน วิตามินบี
-ข้าวโพดป่น จะให้อาหารพวกกลูโคสและแร่ธาตุต่างๆ
-กากถั่ว จะให้อาหารพวกโปรตีน
-ใบกระถิ่น จะให้อาหารพวกโปรตีน (ห้ามใส่มากเนื่องจากจะทำให้ดอกเห็ดกระด้าง)
-กากเหล้า (โรงงานสุรา) จะให้อาหารพวกโปรตีน
-แป้งข้าวเหนียว เป็นอาหารที่ให้พลังงานต่อจุลินทรีย์ ในขบวนการย่อยสลายอินทรีวัตถุ ซึ่งส่วนใหญ่ใส่ในส่วนผสมของเห็ดนางฟ้าภูฐานและเห็ดฟาง
-ไส้นุ่น ช่วยดูดซับความชื้นและมีคุณค่าทางอาหารต่อการเพาะเห็ดฟาง
-ขี้ฝ้าย (สำลีสีเทา) ช่วยดูดซับความชื้นและมีคุณค่าทางอาหารต่อการเพาะเห็ดฟาง
-ทะลายปาล์ม ช่วยดูดซับความชื้นและมีคุณค่าทางอาหารสูง แต่ต้องผ่านขบวนการหมักก่อนนำมาใช้ ส่วนใหญ่ใช้เพาะเห็ดฟาง (กองเตี้ย,โรงเรือน)
1.3อาหารเสริมที่ได้จากแร่ธาตุ (ธาตุอาหาร)จากปุ๋ยหรือสารอนินทรีย์ต่างๆ ประโยชน์ต่อการทำงานของจุลินทรีย์หลังจากการย่อยสลายแล้วเห็ดนำไปใช้ต่อ ซึ่งได้แก่
-ปุ๋ยยูเรีย ( 46-0-0) ให้กรดอะมิโนแก่เห็ด
-ปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ (ขึ้นอยู่กับโรงเรือนหรือท้องถิ่นนั้นๆ) เช่น แอมโมเนี่ยมซัลเฟต (21-0-0)
-ดีเกลือ ( MgSo4 ) เป็นองค์ประกอบของเซลล์เห็ด ช่วยเร่งปฏิกิริยาในการย่อยของเส้นใยเห็ด
-ยิปซั่ม ( CaSo4 ) เป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์เห็ด ทำให้ดอกเห็ดแข็งแรง ดอกสมบูรณ์ขึ้น
-ปูนขาวหรือแคลเซี่ยม (CaO) มีฤทธิ์เป็นด่าง ช่วยปรับค่าpH (Potential of Hydrogen ion) ปุ๋ยหมักให้มีสภาพเป็นกลางทำให้เห็ดดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังให้แคลเซี่ยม (Calcium)แก่เห็ด ช่วยป้องกันโรคแมลงศัตรูเห็ด
-ภูไมท์ หรือแร่พัมมิช เป็นสารอาหารที่ได้จากหินแร่ภูเขาไฟ ใช้ปรับสภาพความเป็นกรดด่าง ทำให้โครงสร้างเส้นใยและดอกเห็ดมีความแข็งขึ้น ป้องกันไรศัตรูเห็ด นอกจากนี้ยังให้ธาตุอาหารแก่เส้นใยเห็ดจำพวก แคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยม ซิลิก้า เป็นต้น ทำให้ดอกเห็ดมีรสชาติดี กรอบ ยืดอายุหลังการเก็บเกี่ยวได้นานกว่าเดิม (เหี่ยวช้า)
-แร่ม้อนท์ ( Montmorillonite ) เป็นสารอาหารที่ได้จากเถ้าภูเขาไฟ ที่เกิดจากการระเบิดขึ้นจากปล่องภูเขาท่ามกลางลาวา ถูกผลักดันจนลอยขึ้นระเบิดกลางอากาศต่อ หนึ่ง สอง หรือสามครั้ง ทำให้เกิดรูพรุนโปร่งอุดมไปด้วยธาตุอาหาร เทรซซิลิเม้นท์ต่างๆ ช่วยดูดซับความชื้น ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ดให้มีปริมาณมากขึ้น ยืดอายุการเก็บเกี่ยวดอกเห็ดให้นานกว่าเดิม
1.4อุณหภูมิ มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเห็ดมาก ทั้งระยะเจริญเติบโตของเส้นใย ออกดอกและการปล่อยสปอร์ ปกติอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเส้นใยจะสูงกว่าช่วงออกดอกประมาร 3-5 องศาเซลเซียส ซึ่งเห็ดแต่ละชนิดมีความต้องการอุณหภูมิแตกต่างกัน ดังนี้ (ตามตารางที่ 1)
1.5ความชื้นสัมพัทธ์ ในธรรมชาติเห็ดสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพความชื้นสูง แบ่งย่อยออกได้ 2 ประเภท คือ
-ความชื้นในวัสดุเพาะ (Moisture) หมายถึงความชื้นในปุ๋ยหมักเพาะเห็ดและกองฟางที่เหมาะสมคือประมาณ 60-65 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามากเกินไปเส้นใยจะขาดออกซิเจนทำให้เส้นใยอ่อนแอเชื้อราศัตรูและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลทำให้เส้นใยเห็ดเกิดความเสียหาย
-ความชื้นในอากาศ (Humidity) หมายถึงความชื้นรอบก้อนเชื้อเห็ดหรือในกองเห็ดฟาง ถ้าน้อยเกินไปทำให้ดอกเห็ดแห้งเป็นสีเหลือง ชะงักการเจริญเติบโต แต่ถ้ามากเกินไปดอกเห็ดจะฉ่ำน้ำ คุณภาพต่ำไม่ได้ราคา
1.6ความเป็นกรด-ด่าง (pH ย่อมาจาก Potential of Hydrogen ion ) เห็ดเจริญเติบโตได้ดีในอาหารที่มีสภาพเป็นกลาง หรือกรดอ่อนๆ (pH 6.5-7)ถ้าอาหารเป็นกรดเส้นใยเห็ดเจริญเติบโตปกติแต่ไม่ออกดอกหรือออกบ้างเล็กน้อย สำหรับ pH ของน้ำก็เช่นเดียวกันจะต้องมีความเหมาะสมนั้นคือเป็นกลาง (pH 7)หรือน้ำที่ใช้ดื่มกินในชีวิตประจำวันและจะต้องสะอาดปราศจากสารเคมีตกค้าง
1.7การถ่ายเทอากาศ เห็ดมีความต้องการออกซิเจนโดยเฉพาะระยะออกดอก ซึ่งต้องการออกซิเจนมากกว่าระยะของเส้นใย สำหรับคาร์บอนไดออกไซด์ช่วยทำให้เส้นใยเจริญเติบโตดี แต่ในระยะออกดอกบวกกับโรงเรือนทึบและการถ่ายเทอากาศไม่ดีส่งผลทำให้ดอกเห็ดไม่บาน ดอกเล็ก ก้านยาวผิดปกติ ซึ่งอาการดังกล่าวมักพบเห็นในเห็ดถุง
1.8แสง มีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นใย ถ้าแสงน้อยเส้นใยจะเจริญเติบโตได้เร็ว สำหรับระยะออกดอกแสงจะช่วยกระตุ้นการสร้างตุ่มดอกเห็ด ( Primodia ) และการเจริญเติบโตของดอกเห็ด ดังนี้
-เห็ดหูหนู แสงจะช่วยให้สีเข้มขึ้น หากแสงน้อยดอกจะซีด
-เห็ดฟาง แสงจะทำให้ดอกสีคล้ำ หากแสงน้อยดอกเห็ดจะมีสีขาว
-เห็ดนางรม นางฟ้า นางฟ้าภูฐาน แสงจะช่วยให้การปล่อยสปอร์ดีขึ้น โดยเฉพาะแสงแดดตอนสายๆ
เกษตรกรท่านใดสนใจหรือสงสัยสามารถสอบถามหรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร.02-9861680-2 หรือ www.ekbiotechagro.blogspot.com(ศูนย์บริการข้อมูลทางวิชาการชมรมเกษตรปลอดสารพิษ )หรือคุณเอกรินทร์ (วัชนะ) ช่วยชู(นักวิชาการชมรมฯ)โทร.081-3983128หรือติชมผ่านEmail : thaigreenagro@gmail.com , ekkarin191@gmail.com และติดตามอ่านบทความวิชาการปัญหาอุปสรรคของคนทำเห็ด ตอน 5.2ปัจจัยของสิ่งมีชีวิตที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของดอกเห็ด ในสัปดาห์ถัดไป สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอขอบพระคุณครูบาร์อาจารย์ที่ประสิทธ์ประสานวิชาและขาดมิได้ชมรมเกษตรปลอดสารพิษที่คอยสนับสนุ่นอยู่เบื้องหลังตลอดมา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น