โดยเฉพาะฤดูฝนจะพบเห็ดแครงงอกตามท่อนไม้
กิ่งไม้ ใบไม้ ใบหญ้า กระดาษ สำหรับในภาคใต้มักพบบนท่อนไม้ยางพาราที่ตัดโค่นไว้
เห็ดแครงมีคุณค่าทางโภชนาการไม่แพ้เห็ดชนิดอื่น โดยเฉพาะมีคาร์โบไฮเดรต โปรตีนสูง ให้พลังงานสูงกว่าเห็ดหอม
เห็ดนางรม เห็ดฟาง และเห็ดหูหนู
ในประเทศญี่ปุ่นจะใช้ทำเป็นยารักษาโรค
เพราะในเห็ดแครงมีสารที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อไวรัสยับยั้งเซลล์
มะเร็ง
ประเทศไทยเห็ดแครงจะเป็นที่รู้จักมากในหมู่คนปักไต้
ซึ่งจะนิยมนำมาแกงคั่วกับปลาย่าง
หรือนำมาย่างโดยโขลกพริกขี้หนู ข่า ตะไคร้ ขมิ้น พริกไทย
แล้วนำเห็ดแครงผสมลงไป
พร้อมด้วยมะพร้าวขูด ไข่ไก่ แล้วห่อด้วยใบตองนำไปปิ้งเตาถ่าน
ส่งกลิ่นหอมชวนให้น้ำลายไหลเลยทีเดียว
ปัจจุบันเห็ดแครงเริ่มหายากขึ้นเพราะไม้ยางพารามีราคาสูงเป็นที่ต้องการของ
ตลาด
นอกจากนั้นพื้นที่ป่าเหลือน้อยกลายเป็นที่อยู่อาศัยมากขึ้น
กว่าจะได้กินเห็ดแครงสักครั้งต้องรอให้ถึงช่วงหน้าฝนแต่ก็มีบ้างเล็กน้อย
เหตุนี้จึงทำให้มีผู้คิดค้นหาวิธีการเพาะเห็ดแครงขึ้นเพื่อให้มีไว้บริโภค
ได้ตลอดปี
วัสดุส่วนผสมการทำก้อน
มีดังนี้
1.
ขี้เลื่อยไม้ยางพาราหรือไม้เนื้ออ่อน
100 กิโลกรัม
2.
รำละเอียดหรือปลายข้าวเจ้า
50 กิโลกรัม
3.
ภูไมท์
2
กิโลกรัม
4.
ดีเกลือ
2
ขีด
5.
น้ำสะอาด
75-80
ลิตร
ขั้นตอนการทำก้อนมีดังนี้
- คลุกผสมขี้เลื่อย
รำละเอียด ภูไมท์ให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำสะอาดผสมดีเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากันพอหมาดๆ
ระวังอย่าให้แฉะ
- บรรจุใส่ถุงพลาสติกเพาะเห็ด
ขนาด 6.5 X 10 นิ้ว ประมาณ 3 ใน
4 ของถุง หรือน้ำหนัก 600 กรัมต่อถุง
- อัดวัสดุเพาะพอแน่น
สวมคอขวดใช้ยางรัด เจาะรูตรงกลางเพื่อให้เชื้อเห็ดอยู่ตรงกลางถุง
ปิดจุกประหยัดสำลี
- นำไปนึ่งในหม้อนึ่ง
อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง นับจากน้ำเดือด เมื่อครบกำหนดเวลา
พักไว้ให้เย็นลำเลียงไปไว้ในห้องเขี่ยเชื้อ แล้วรีบใส่เชื้อ อย่าทิ้งไว้ให้เกิน 24
ชั่วโมง จะทำให้การปนเปื้อนของเชื้อสูง
- การเขี่ยเชื้อเห็ดควรเขี่ยในห้องที่สะอาดและลมสงบ
นำเชื้อเห็ดที่จะเพาะมาเคาะให้เมล็ดข้าวฟ่างกระจายก่อน
เพื่อสะดวกในการเทหัวเชื้อเห็ดลงถุง เปิดปากขวดออกลนด้วยเปลวไฟจากตะเกียงแอลกอฮอล์
ดึงจุกประหยัดสำลีที่จุกปากถุงออก แล้วเทหัวเชื้อที่เลี้ยงบนเมล็ดข้าวฟ่างลงไป
ประมาณ 20-30 เมล็ด ผู้เพาะต้องระวังอย่าให้มือถูกเมล็ดข้าวฟ่างเด็ดขาด
เพราะจะทำให้ก้อนเชื้อเสียได้ จุกสำลีที่จุดปากถุงห้ามวางกับพื้นเด็ดขาด
และเมื่อเขี่ยหัวเชื้อลงในถุงแล้ว ต้องรีบปิดจุกสำลีทันที หัวเชื้อเห็ด 1 ขวด
จะใส่ได้ประมาณ 30 ถุง
- การบ่มก้อนเชื้อ
ก้อนเชื้อที่เขี่ยเชื้อแล้วนั้น ควรเก็บในโรงเรือนสำหรับบ่มเชื้อทันที
ภายในโรงเรือนบ่มเชื้อต้องสะอาด และที่สำคัญจะต้องมืด
ขนาดที่อ่านหนังสือพิมพ์ไม่เห็นในระยะ 1 ฟุต
มิฉะนั้นแสงจะเป็นตัวกระตุ้นให้เส้นใยสร้างดอก
ทั้งที่เส้นใยยังเจริญสะสมอาหารได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผลผลิตต่ำ
ไม่คุ้มค่า หลังจากพักบ่มเส้นใยประมาณ 15-20 วัน เส้นใยจะเจริญเต็มถุง
จึงนำไปเปิดดอก
มิตรเกษตรท่านใดที่เพาะอยู่หรือกำลังจะเพาะ
แล้วมีความสนใจอยากจะลองเพาะเห็ดแครง(เห็ดตีนตุ๊กแก)สร้างรายได้ดูบ้าง
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งจองเชื้อเห็ด อุปกรณ์การเพาะ ได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
โทร. 02-9861680-2 หรือได้ที่คุณเอกรินทร์
ช่วยชู โทร.081-3983128
เขียนและรายงานโดย : คุณเอกรินทร์ ช่วยชู (นักวิชาการชมรมฯ)
วันที่
22 มีนาคม พ.ศ. 2554 เสนอแนะติชมได้ที่ email
: thaigreenagro@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น