อย่างที่กล่าวมะนาวรากจะแผ่กระจายไปทั่ว
ต้องการน้ำเป็นตัวทำละลายในการดูดซับธาตุอาหาร
หากให้น้ำเพียงจุดหนึ่งจุดใดบริเวณโคนต้น ไม่ทั่วถึงไปยังรากส่วนอื่น
ทำให้มะนาวไม่สมบูรณ์ ใบเหลือง ผลผลิตตกต่ำ ที่สำคัญน้ำหยดลงดินจุดเดียวนานๆทำให้รากอ่อนแอเป็นเชื้อรา
ในที่สุดทำให้มะนาวต้นนั้นเป็นโรคไม่โตหรือตายได้
หากเป็นโรคเนื่องจากรากเน่าให้ใช้เชื้อไตรโคเดอร์ม่า 1 กิโลกรัม
ผสมกับปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ 50 กิโลกรัม หว่านรอบๆ ทรงพุ่มเดือนละครั้ง
เพื่อป้องกันกำจัดเชื้อราในดิน
การรดน้ำควรให้น้ำกระจายไปรอบๆทรงพุ่ม
ซึ่งอาจใช้สปริงเกอร์ หรือมินิสปริงเกอร์ ช่วงหน้าแล้งมะนาวที่ลงดินควรให้น้ำ 3-5
วันต่อครั้ง โดยแต่ละครั้งควรให้อย่างชุ่มฉ่ำไปเลย
ส่วนในวงบ่อซีเมนต์สามารถให้ได้ทุกวัน ช่วงไหนก็ได้เนื่องจากวงซีเมนต์ดูดความชื้นออกไปด้วยส่วนหนึ่ง
ทำให้ความชื้นในดินหายไป จริงๆแล้วใช่ว่าระบบน้ำหยดไม่ดี
แต่ระบบนี้เหมาะสมกับปลูกพืชล้มลุกที่มีรากแผ่ไม่ไกลมากกว่า
ส่วนพืชที่มีรากกระจายรอบๆทรงพุ่มนั้นเหมาะสมกับการให้น้ำแบบกระจายตัวมากกว่า
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ 02-9861680-2 หรือ 081-3983128 (คุณเอกรินทร์)
เขียนและรายงานโดย :
ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com/Aticle.aspx?id=13140&Param2=4
วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชมได้ที่ email
: thaigreenagro@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น