ปัญหาที่สร้างความหนักใจให้กับคนปลูกมะลิมีไม่กี่อย่าง
หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นหนอนเจาะไส้ดอกมะลิ
ส่งผลให้ดอกมะลิที่ถูกทำลายกลายเป็นสีม่วงไม่โต เหี่ยวแห้งติดต้นเก็บขายไม่ได้
หนอนเจาะไส้ดอกเกิดจากผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่ง ชอบวางไข่บนดอกอ่อนของมะลิ
ฟักตัวเป็นหนอนเจาะกินไส้ดอก ทำให้ดอกร่วงหล่น
จากนั้นจะทิ้งตัวเข้าดักแด้ตามเศษใบไม้แห้งบนดินบริเวณโคนต้น
|
พฤติกรรมการฉีดพ่นยา ฮอร์โมน ปุ๋ยของเกษตรกร
ส่วนใหญ่ฉีดพ่นเฉพาะซอกใบ ช่อดอกบนต้นเพียงเท่านั้น จึงเป็นเหตุให้ดักแด้ไม่ตายสามารถลอกคราบออกมาเป็นผีเสื้อผสมพันธุ์วางไข่ได้อีก
ด้วยความที่ไม่รู้ไม่เข้าใจเกษตรกรก็เลยผสมยาในอัตราที่เข้มข้นหวังจะน็อกให้อยู่หมัด
และแล้วก็โดนน็อกเสียเองเนื่องจากยาเคมีราคาแพง
จริงๆแล้วการใช้ยาเคมีไปนานๆหรือบ่อยครั้งทำให้สารพิษตกค้างในดินในต้นมะลิที่เราฉีดพ่น
รวมถึงคนเก็บดอก คนร้อยพวงมาลัยที่ใจดีรับสารพิษ(ความตาย)ไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว
จะรู้อีกทีร่างกายเขาเริ่มอ่อนล้าอ่อนแรง
การผลิตดอกมะลิให้ปลอดสารเคมี
ปลอดหนอนเจาะไส้ดอกนั้นไม่ยาก อยู่ที่ใจว่าพร้อมหรือเปล่า ถ้าพร้อมเริ่มตั้งแต่การศึกษาขั้นตอนการปลูก
การปรับปรุงดินว่าสภาพดินอย่างนี้ควรปรับปรุงอย่างไรจึงเหมาะ
ดินเปรี้ยว(กรด)ควรใช้สารตัวไหนปรับ แล้วดินเค็ม(ด่าง)ล่ะใช้ตัวไหนถึงจะดี ชาวสวนสมัยใหม่สมควรรู้
ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกทาง แล้วต้นมะลิต้องการธาตุอาหารอะไร เท่าไร
ช่วงไหน เก็บดอกได้เมื่อไรเหล่านี้เป็นต้น
ดินเปรี้ยวหรือที่ทางการเรียกว่า “ดินกรด”
คือดินที่มีค่า pH ต่ำกว่า 5.8 ให้ใช้โดโลไมท์หรือปูนมาร์ลหว่านปรับสภาพ
แต่ถ้าเมื่อวัดแล้ว pH กลับสูงกว่า 6.3
แสดงว่าดินตรงนั้นเค็มหรือ “ดินด่าง”นั้นเองให้ใช้ภูไมท์ซัลเฟตกระสอบสีแดงหว่านปรับสภาพแทน
ส่วนพื้นที่ใดที่มีค่า pH อยู่ระหว่าง 5.8-6.3
แสดงว่าพื้นที่ของท่านมีเหมาะสมต่อการปลูกพืชมากที่สุด เพราะที่ pH 5.8-6.3
แร่ธาตุในดินสามารถปลดปล่อยธาตุอาหารให้พืชได้ใช้ประโยชน์มากที่สุด โอกาสขาดธาตุโดยเฉพาะธาตุเสริมก็มีน้อยลง
เมื่อต้นมะลิได้รับธาตุอาหารเหมาะสม
ต้นแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ค่อยเป็นโรค สามารถให้ผลผลิตเต็มที่
แต่หากต้องการเพิ่มภูมิต้านทานป้องกันโรคแมลงแล้วล่ะก็
เวลาใส่ปุ๋ยครั้งใดให้คลุกผสมด้วยพูมิชในอัตรา 20 กิโลกรัมต่อปุ๋ยเคมี 50
กิโลกรัมหรือหากเป็นปุ๋ยคอกให้ใช้ 100 กิโลกรัม ซิลิก้าที่อยู่ในเนื้อพูมิชสามารถช่วยป้องกันหรือเป็นเกราะป้องกันโรคแมลงได้
แต่หากช่วงไหนมีหนอนเจาะไส้ดอกระบาดให้หมักขยายเชื้อบีทีชีวภาพร่วมกับสมุนไพรไทเกอร์เฮิร์ป
ฉีดพ่น 3 วันหรือ 5 วันครั้งตามเหมาะสมกับโปรแกรมที่ท่านวาง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ 02-9861680-2 หรือ 089-4442366
(เอกรินทร์)
เขียนและรายงานโดย :
ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ http://www.thaigreenagro.com/Aticle.aspx?id=12831&Param2=5
วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556 เสนอแนะติชมได้ที่ email
: thaigreenagro@gmail.com
|
|
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556
หนอนเจาะไส้ดอกมะลิ แก้ได้ไม่ต้องปนเปื้อนสารเคมี
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น