วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ปลูกพืชหมุนเวียน สับเปลี่ยนอาหารลงดิน


การปลูกพืชแบบไม่หยุดพัก ไม่ลืมหูลืมตา ทำให้ดินไม่มีเวลาหยุดพักสะสมอาหาร กิจกรรมของจุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในดิน ไม่มีเวลาได้มาเก็บมากินเศษซากอินทรีย์วัตถุที่เป็นโมเลกุลใหญ่ให้กลายเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือช่วยทำให้โมเลกุลเล็กลง ทำให้ฮิวมัส ฮิวมิค แอซิดในดินลดจำนวนและหดหายไปทีละน้อยๆ ทำให้โครงสร้างดินเสื่อมโทรม อาหารที่สะสมอยู่ในดินก็ไม่มี เพราะขาดการกักเก็บที่ดีจากโครงสร้างดินที่หละหลวม เนื่องด้วยเป็นดินที่ไม่มีอินทรียวัตถุเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยอย่างเพียงพอ  ถ้าจะให้เห็นภาพก็นึกถึงทะเลทรายนั่นเลยครับ คือถ้าทะเลทรายบริเวณไหนมีการเติมอินทรียวัตถุอยู่บ่อยๆ ก็จะเป็นอินทรียวัตถุบวกทราย แต่ถ้าทรายถูกชะล้างเอาอินทรียวัตถุออกไป ก็จะเหลือเพียงแต่ทรายอย่างเดียว ไม่นุ่ม ชุ่มชื้น ขาดชีวิตชีวา จะปลูกพืชไร่ไม้ผลอะไรก็ต้องแต่งเติมเสริมใส่ปุ๋ยเคมีอยู่ตลอดเวลา จึงควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับเรื่องการปรับปรุงบำรุงดิน อย่าให้ขาดแร่ธาตุสารอาหารและอินทรีย์วัตถุ

Potassium-Humate.gif
การพักดิน ด้วยการปลูกพืชชนิดอื่นๆ สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ก็จะช่วยทำให้ดินอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชตระกูลถั่ว อย่างเช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วพร้า แคบ้าน (ปลูกไว้กินดอก) หรือจะเป็นโสน ปอเทือง ก็ได้ แต่การปลูกพืชที่สามารถจับตรึงไนโตรเจนจากอากาศสะสมลงในดิน โดยที่รากของถั่วจะมีปมที่สามารถกักเก็บไนโตรเจนอยู่ในดิน อีกทั้งยังมีรายได้จากการขายผลผลิตที่ออกมาจากต้นถั่ว ต้นแค ก็จะทำให้ไม่เสียพื้นที่ เสียเวลา ไปโดยเปล่าประโยชน์ ได้ทั้งผลผลิตนำไปขายสร้างรายได้ ได้ทั้งปุ๋ยไนโตรเจนจากปมที่รากถั่ว ได้ทั้งเศษซากต้นถั่วเมื่อไถกลบกลายเป็นอินทรีย์วัตถุ จะช่วยทำให้ดินดำน้ำชุ่มในระยะยาวเป็นอย่างดี
Pumice_Sulpher02.jpg
ในช่วงที่รอเศษซากของพืชบำรุงดินอยู่นั้น พี่น้องเกษตรกรก็สามารถที่จะนำหินแร่ภูเขาไฟ ที่ชื่อว่า พูมิชซัลเฟอร์ ใส่เสริมเพิ่มลงไปในดินในอัตรา 20 -40 กิโลกรัมต่อไร่ ก็สามารถทำให้ดินเติมเต็มแร่ธาตุสารอาหารต่างๆ ทั้ง ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก ทองแดง แมงกานีส สังกะสี โบรอน โมลิบดินั่ม นิกเกิล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่ธาตุ ซิลิสิค ที่ช่วยทำให้พืชใบแข็ง ตั้ง ชู สู้แสง เมื่อใบพืชรับแสงได้มาก ก็ลดปัญหาเรื่องเชื้อราเข้าทำลาย อีกทั้งสร้างภูมิต้านทานแก่หนอน และแมลงให้เข้าทำลายได้ยากยิ่งขึ้น และที่สำคัญจะช่วยทำให้โครงสร้างดินแข็งแรงไปอย่างยั่งยื่น เหมือนปลูกพืชอยู่บนเกาะภูเขาไฟ อย่างเช่น ชวา บาหลี หรือฟูจิ นั่นเองครับ

คุณมนตรี  บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com 

ไม่มีความคิดเห็น: