วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ใช่เจตจำนงของความเป็นเกษตรยั่งยืน

การทำเกษตรแบบดั้งเดิมที่เตรียมแปลง เพาะเมล็ด ปลูกลงดิน รอวันเวลาโรคแมลงเข้ารบกวน ฉีดพ่นยาสารเคมีป้องกัน และเก็บเกี่ยวผลผลิต วงจรหรือ วัฎจักรแบบนี้จะดีในระยะแรกๆ สั้นๆ แต่นานๆไป อาหารในดินก็จะหมด พืชก็อ่อนแอ ไม่พ้นที่จะต้องพึ่งพาแต่ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วล้วนแต่มีสิ่งที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศน์ ผู้เพาะปลูก ผู้ฉีดพ่น และผู้บริโภค เพราะสารพิษในท้องตลาดส่วนใหญ่จะมีพิษฤทธิ์แรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับ เนื่องด้วยโรค แมลงศัตรูพืชก็จะมีพัฒนาการในการป้องกันตนองพัฒนาไปสู่การดื้อยา ยาชนิดเดิม ยี่ห้อเดิม ไม่สามารถใช้ได้ผลในแปลงพืชไร่ไม้ผลเดิมๆ

แต่การ เพาะปลูกหรือการทำเกษตรกรรมด้วยการสังเกตจดจำจะช่วยในเรื่องของการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพราะจะมีการปรับปรุงแก้ไขสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติให้สอดคล้องสมดุลกับการดูด กินแร่ธาตุสารอาหารของพืชอยู่ตลอดเวลา เรามีการนำผลผลิต ซึ่งหมายถึงแร่ธาตุสารอาหารที่พืชดูดจากดินออกไปจำนวนมากหรือมหาศาลเมื่อ เทียบกับจำนวนปีหลายสิบปีที่ผ่านการเพาะปลูกกันมาบนพื้นดินนั้นๆ แต่เรากลับที่จะละเลย อินทรียวัตถุ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในดินหรือในระบบนิเวศน์ เช่น ไส้เดือน แมงมุม จุลินทรีย์ แอคติโนมัยสิต และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่คอยเกื้อหนุนจุนเจือให้พืชมีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์แข็งแรง
ทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ดินยังคงความอุดมสมบูรณ์ทำให้การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุกระทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก นั่นก็คือการนำหินแร่ภูเขาไฟมาใส่มาเติมเสริมธาตุอาหารในราคาที่ไม่แพงมากนักลงไปในดิน ซึ่งหินแร่ภูเขาไฟ (พูมิชซัลเฟอร์ PumishSulpher) นั้นประกอบด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ มากมายทั้งฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก ทองแดง แมงกานีส สังกะสี โบรอน โมลิบดินั่ม นิกเกิล ฯลฯ ที่จะค่อยทำให้ดินที่ผ่านการปลูกพืชอยู่ตลอดเวลา ไม่ขาดแคลนสารอาหารที่จำเป็นต่อพืชออกไปจนหมด อีกทั้งนอกเหนือจากแร่ธาตุสารอาหารที่จำเป็นแล้ว หินแร่ภูเขาไฟ โดยเฉพาะพูมิชซัลเฟอร์นี้จะมี แร่ธาตุซิลิก้าที่ละลายน้ำได้ออกมาเป็นประโยชน์ให้พืช เพื่อช่วยทำให้ผนังเซลล์แข็งแกร่ง ต้านทานต่อโรค แมลง เพลี้ย หนอน รา ไร ได้เป็นอย่างมาก เพราะหินแร่ภูเขาไฟนั้นผ่านความร้อนภายใต้ชั้นเปลือกโลกมากถึง 980-1,200 องศาเซลเซียส เมื่อเกิดการเคลื่อนย้ายถ่ายเทระเบิดออกมาสู่ชั้นบรรยากาศที่บางเบา เพียง1 ชั้นบรรยากาศโลก จึงเกิดการบวมพองเดือดพล่าน เป็นหินชั้น หินลาวา ก๊าซ และไอน้ำ จึงเป็นหินที่สุกแล้ว เดือดแล้ว พร้อมต่อการย่อยสลาย ปลดปล่อยแร่ธาตุต่างๆ ออกมาสู่พืช จึงสามารถที่จะช่วยให้พืชแข็งแกร่ง แข็งแรงตั้งแต่เริ่มต้นปลูก เมื่อมีการระบาดของโรคแมลงก็สามารถที่จะดูแลแก้ไขได้ง่ายกว่าต้นที่ไม่ได้รับซิลิก้าหรือแร่ธาตุสารอาหารจึงมีความอ่อนแอมากกว่า ดูแลรักษายากกว่า

คุณมนตรี  บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

ไม่มีความคิดเห็น: