ในอดีตปุ๋ยที่ใช้กันอยู่ในบ้านเราจะละลายค่อนข้างเร็ว
เนื่องด้วยพฤติกรรมของผู้ใช้มักจะเชื่อว่าปุ๋ยที่ใส่ลงไปให้แก่พืชแล้วนั้นจะต้องละลายออกไปในทันทีทันใด
ถ้าละลายช้าจะไม่ดีไม่เกิดประโยชน์ต่อพืชอีกทั้งบางครั้งยังคิดว่าน่าจะเป็นปุ๋ยปลอม
ปุ๋ยไม่ได้มาตรฐานมีดิน มีหินปลอมปนเข้ามามากเกินไป
จึงทำให้ผู้ผลิตปุ๋ยส่วนใหญ่จะต้องกำหนดคุณสมบัติของปุ๋ยให้ปลดปล่อยและละลายแร่ธาตุสารอาหารออกมาให้แก่พืชโดยเร็วที่สุด
ข้อเสียจึงทำให้พืชดูดกินไม่ทัน กินไม่หมด กินจริงๆได้ประมาณ 20
– 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือก็เสื่อมสลายหายไปกับอากาศ สายลม
แสงแดด และส่วนหนึ่งจะซึมลึกลงไปใต้ผืนดินเกินระดับรากพืชจะดูดซึมได้
จึงทำให้สูญเสียประสิทธิภาพในการใส่ปุ๋ยไปโดยใช่เหตุ
|
เนื้อปุ๋ยจริงๆที่อยู่ในส่วนผสมของแต่ละสูตรนั้น
จะไม่ใช่เนื้อปุ๋ยตามน้ำหนักทั้งหมด
จะมีเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์จริงตามสูตรของปุ๋ยแต่ละชนิด อย่างเช่น ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ที่หนัก 50 กิโลกรัม ก็จะมีเนื้อปุ๋ยจริงอยู่ 23 กิโลกรัม
และส่วนที่เหลือเป็นส่วนเติมเต็มที่พระราชบัญญัติกฎหมายของไทยเราอนุญาตให้นำมาใส่เติมเต็มได้
เมื่อใส่ต้นไม้และรดน้ำหรือฝนตกเนื้อปุ๋ยที่เป็นสสารไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็จะละลายออกมาทันที
ส่วนฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มก็อาจจะหลงเหลือตกค้างอยู่บ้าง
แต่นั่นไม่ใช่ปุ๋ยเป็นเพียงอนุมูลที่ให้ปุ๋ยมากเกาะอยู่เท่านั้น
ดังนั้นเนื้อปุ๋ยจะละลายหายไปทันทีถ้ารากพืชดูดไม่ทัน ยิ่งมีแสงแดดร้อนจัด
หรือแม้แต่การละลายไหลลงไปเกินระดับความลึกของรากพืชจะดูดกินได้
นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ปุ๋ยจะสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
เมื่อปุ๋ยโดยทั่วไปมีคุณสมบัติที่ละลายเร็ว
ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อพืชได้มากนัก
จึงต้องควรนำมาทำให้เป็นปุ๋ยละลายช้าเสียก่อน
เหมือนปุ๋ยที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นที่ลงท้ายด้วยโค๊ทๆ ทั้งหลาย
นั้นจะมีคุณสมบัติที่เป็นปุ๋ยละลายช้าอยู่แล้ว
แต่เนื่องด้วยมีราคาที่ค่อนข้างแพงไปในบ้างครั้งจึงไม่เหมาะต่อการนำมาใช้ในพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่เป็น
10 ไร่ 100 ไร่ ฉะนั้นการทำปุ๋ยละลายช้าแบบเมด อิน
ไทยแลนด์จึงมีความเหมาะสมกับวิถีไทยๆ แบบบ้านเรา ด้วยการนำปุ๋ยเคมี 2 กระสอบหรือ 100 กิโลกรัม พรมน้ำพอชุ่มชื้นแล้วนำ
พูมิช (Pumish) 1 กระสอบ 20
กิโลกรัมนำมาเทกองผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน เนื้อ พูมิช (Pumish) ที่มีรูพรุนมหาศาล
จึงสามารถที่สนับสนุนซัพพอร์ตสสารของปุ๋ยที่ละลายออกมาช่วยกักเก็บให้กลายเป็นปุ๋ยละลายช้า
และค่อยปลดปล่อยออกมาให้แก่รากพืชเมื่อดูดกินขึ้นไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของพืช
อีกทั้งยังสามารถเก็บใส่ถุงกระสอบปุ๋ยไว้ใช้ได้นานเป็นปี
คุณมนตรี
บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
http://www.thaigreenagro.com/Aticle.aspx?id=14618&Param2=18
|
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556
ช่วยปุ๋ยละลายช้า รีบไปหา พูมิช (Pumish)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น