ท่านผู้อ่านและแฟนคลับสมาชิกเกษตรปลอดสารพิษอาจจจะงงๆ
สักหน่อยกับชื่อบทความของกระผม
เพราะว่าใกล้จะฤดูฝนอยู่รอมร่อแล้วยังจะมาสงสัยอะไรกันนักหนากับปัญหาภัยแล้ง
จัดเป็นพวกองุ่นเปรี้ยวหรือยาหมดอายุหรือเปล่า ความจริงก็ไม่มีอะไรหรอกดอกนะครับ
เพียงแต่กังวลและสงสัยจริงๆ
ในเรื่องที่จะเกิดกับประเทศไทยเราในห้วงช่วงอีกสองสามเดือนข้างหน้า
|
ต้องขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของงานบ้านการเมือง
แต่ท่านผู้อ่านที่ติดตามข่าวสารอยู่บ้างอาจจะทราบเหมือนกระผมเกี่ยวกับเรื่องปรากฎการณ์เอลนิลโญ่
ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะเกิดในห้องช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกรกฎาคม
ซึ่งความจริงก็เป็นช่วงฤดูฝนของบ้านเราในสภาวะปรกติ
แต่ถ้าไม่ปรกตินั่นก็ย่อมแสดงว่าอาจจะมีปัญหาหรือไม่มีฝนตกในห้วงช่วงเวลาดังกล่าว
นั่นคือสิ่งที่กังวลของจริง
เพราะถ้าไม่มีฝนตกลงมาในช่วงฤดูกาลนี้แล้วชาวไร่ชาวนาจะนำแหล่งน้ำที่ไหนมาใช้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
ท่านว่าจริงไหมครับ?
ความจริงฤดูแล้งในบ้านเรานั้นจะก่อกำเนิดเกิดขึ้นในช่วงปลายฤดูหนาวจนถึงกลางฤดูร้อน
คือช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม
โดยปรกติก็จะเป็นห้วงช่วงฤดูแล้งเป็นประจำทุกปี. และพอย่างเข้าเดือนพฤษภาคม
ก็จะเริ่มคราดไถพรวนดินเตรียมเพาะปลูกรับฝนช่วงต้นเดือนมิถุนายน
เกษตรกรที่เพาะปลูกในช่วงนี้ก็จะประหยัดน้ำประหยัดปุ๋ยประหยัดแรงงาน
เพราะน้ำฝนน้ันนำปุ๋ยและอาหารลงมาด้วยแถมช่วยทำละลายแร่ธาตุสารอาหารในดินให้ออกมาเป็นประโยชน์ต่อรากพืช
ช่วยให้ดูดกินและลำเลียงไปใช้ได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามในพื้นที่ 512,000
ตารางกิโลเมตรของประเทศไทยเรานั้นถือว่ามีความสามารถในการรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากถึง
800,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
ผมใช้คำว่ารองรับนะครับ
แต่มิได้หมายถึงกักเก็บ
เพราะพื้นที่ของประเทศไทยที่มีบรรพกาลชำนาญด้านการเกษตรแต่ไม่ชำนาญในกัก
เก็บหรือกักตุนทรัพยากรที่สำคัญต่ออาชีพของตนเองได้
นั่นก็คือ "น้ำ" ในแต่ละปีเราปล่อยให้น้ำไหลทิ้งลงทะเลมากถึง 70-80% คือประมาณ 560,000-640,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
จึงทำให้พื้นที่ที่มีผืนดินมีความอุดมสมบูรณ์พร้อมต่อการเพาะปลูกตลอดเวลา
แต่ติดขัดปัญหาที่ในบางช่วงบางเดือนไม่มีน้ำไว้ใช้ในการทำการเกษตร
หรือจะว่าแต่การเกษตรเลยครับ แม้แต่การอุปโภคบริโภก็ยังไม่เพียงพอด้วยซ้ำ
(หรือพวกเราจะฟังแต่หน่วยงานนอกโลกที่คิดว่าหวังดีจริงๆกับเรามากเกินไป)
ในห้วงช่วงเดือน มิถุนายและกรกฎาคมปีนี้ ปรกติจะต้องเป็นฤดูฝน
แต่ถ้าเกิดปรากฎการณ์เอลนิโญ
ซึ่งสาเหตุเกิดจากปรากฎการณ์ธรรมชาติเกิดจากการหมุนตัวของโลก
แกนโลกที่ทำมุมเอียงกับดวงอาทิตย์เปลี่ยนแปลงส่งผลให้กระแสน้ำที่ไหลไปมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันออกเปลี่ยนไป
มีผลต่ออุณหภูมิและอากาศเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออก
ส่งผลให้ลมสินค้าไม่พัดพาดผ่านพาฝนมาตกทางฝั่งภาคใต้ของบ้านเรา
มาเลเซียและอินโดนีเซีย ถ้ารุนแรงก็อาจจะส่งผลต่อบ้านเราทั้งประเทศ.
ภาพรวมก็คือจะส่งผลให้เกิดภาวะหรือปรากฎการณ์ที่ร้อนกว่าปรกติ แล้งกว่าปรกติ
เหตุการณ์ในลักษณะนี้ทำให้ผลผลิตภาคการเกษตรจะหดหาย
การสูญเสียอินทรีย์วัตถุจะมากขึ้น (จากความแห้งแล้งจนนำไปสู่การเกิดไฟป่า)
อินทรีย์วัตถุคือแหล่งกำเนิดของปุ๋ยหมักปุ๋ยอินทรีย์
ที่เหมาะสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์
แหล่งน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญควรทำสระน้ำประจำไร่นาเพื่อกักเก็บน้ำ
ใช้สารอุดบ่อช่วยอุดรอยรั่วซึม ใช้ม้อยเจอร์ไรเซอร์สำหรับพืช
(กลุ่มของไคโตซานสายโซ่ยาว ไบโอฟิล์, ไค
โตซานเฟรช)
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
เพราะอากาศที่ร้อนแล้งทำให้พืชสูญเสียน้ำไปได้โดยง่าย
ผลิตผลเงาะ ลองกอง ทุเรียน. มะม่วงฯลฯ จะสุกและแก่เร็ว
ผลผลิตอาจจะเสียหายมาก
การทำให้ดินโปร่งร่วนซุยจากหินแร่ภูเขา การระเบิดดินดานจากสารละลายดินดาน
จะช่วยทำให้เนื้อดินสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นอุ้มน้ำอุ้มปุ๋ยในภาวะแห้ง
แล้งได้มากขึ้น
พื้นที่หรือทุงหญ้าเลี้ยงสัตว์ควรต้องเตรียมการแต่เนิ่นเพื่อหลีกเลี่ยง
ปัญหาขาดหญ้าให้วัว
ควาย แพะ แกะ ในส่วนของ กุ้ง หอย ปู ปลา
ที่ใช้น้ำเค็มก็จะอาจจะมีปัญหาในเรื่องการเจือจางน้ำเค็ม
ปัญหาน้ำระเหยแห้งเร็วทำให้ระดับน้ำในบ่อเหลือน้อยความเข้มข้นของเศษอาหาร
และขี้กุ้งขี้ปลามาก
ควรใช้จุลินทรีย์บาซิลลัส ซับธิลิส
ย่อยสลายขี้เลนขี้ปลาในบ่อเพื่อลดของเสียและก๊าซที่เน่าเหม็น
สำหรับวันนี้เวลาและเนื้อที่มีจำกัดผมขออนุญาตนำเรื่องราววิธีการที่เฉพาะ
เจาะจงในแต่บะกรณีในแต่ละปัญหามาเล่าให้ทันฟังในโอกาสต่อไปแล้วกันนะครับ
คุณมนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
|
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557
ไม่รู้จะแล้งมั๊ย?!? ฝนนี้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น