วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

ผลลัพธ์ที่ไม่ลงตัวของสารเคมี

แน่นอนครับว่าสารเคมีที่เราใช้กำจัดแมลงส่วนหนึ่งจะต้องตกค้างอยู่ในผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า หรือทำลายด้วยความร้อนจากการหุงต้ม ดังนั้นอาหารที่เราบริโภคเข้าไปทุกวันนี้ย่อมปนเปื้อนไปด้วยสารพิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวผู้ใช้โดยตรง หรือผู้บริโภค ซึ่งอาจจะแสดงอาการทันที หรือค่อยๆสะสมเข้าร่างกายทีละนิดทีละหน่อย นอกจากนี้สารเคมียังทำลายแมลงดีในธรรมชาติที่คอยกินแมลงศัตรูพืชอย่าง แมงมุม ด้วงดิน เต่าทอง ด้วงเพชฌฆาต ฯลฯ ให้ค่อยๆหมดไปจากธรรมชาติ
เมื่อแมลงศัตรูธรรมชาติส่วนหนึ่งถูกทำลาย ส่งผลให้แมลงศัตรูพืชเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้แหล่งอาหารไม่เพียงพอ สมดุลของระบบนิเวศก็หายไป แมลงศัตรูพืชระบาดมากขึ้นจนกลายว่าเคมีควบคุมไม่ได้ผล จริงๆแล้วในอดีตทำไมเคมีจึงควบคุมเอาแมลงอยู่ ไม่ใช่อะไรหรอกครับแต่เนื่องด้วยแมลงศัตรูธรรมชาติส่วนหนึ่งคอยควบคุมอยู่นั้นเอง เมื่อสารเคมีส่วนหนึ่งไปกำจัดศัตรูธรรมชาติจนลดลง ส่งผลให้แมลงศัตรูขยายพันธุ์รวดเร็วจนกลายเป็นศัตรูพืชในที่สุด
สารเคมีเหล่านี้ไม่ได้อยู่เฉพาะในพื้นที่การเกษตรเท่านั้นหรอกครับ แต่จะแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ ซึ่งอาจจะไปทางน้ำที่ไหลผ่านแปลงเกษตรที่ฉีดพ่นสารเคมี ทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนเคมี เมื่อระบบนิเวศถูกทำลาย น้ำก็เน่าเสีย ปลาก็ตาย เพราะสารเคมีกลุ่มนี้สลายช้า เมื่อสัมผัสก็สะสมในร่างกายทีละเล็กทีละน้อย อาจจะไม่ถึงกับเสียชีวิตทันทีก็จริงอยู่ แต่ก็มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว ทำให้เจ็บป่วยง่าย กระเสาะกระแสะ ขี้โรค เดี่ยวเป็นโรคโน้นเดี่ยวเป็นโรคนี้ สรุปง่ายๆเลยแล้วกัน ... ผลดีของการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชมีน้อยกว่าผลเสีย ท่านใดสนใจแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือเสนอแนวคิดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่โทร. 081-3983128 (ผู้เขียน)

เขียนและรายงานโดย : คุณเอกรินทร์  ช่วยชู (นักวิชาการชมรมฯ)
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com
วันที่ 4 เมษายน 2557 เสนอแนะติชมได้ที่ email : thaigreenagro@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น: