วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ลดปัญหาตะไคร่น้ำพันกอข้าวรัดกอโตช้า


การปลูกข้าวของเกษตรกรยุคเก่ามักจะติดนิสัยที่ใส่ปุ๋ยมากเพื่อเพิ่มความเขียว และอัดปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตแข่งขันกันเป็นนัยๆว่าข้าเจ๋งกว่าเอ็งปลูกข้าว ได้ผลผลิตสูงกว่า จึงมีคำหยอกล้อเชิงเหน็บแนมว่าทำนาเอาโล่ห์ทำนาเอาหน้าแต่ไม่ได้เงิน เพราะมีต้นทุนที่หมดไปกับการใส่ปุ๋ยเสียมากต่อมาก บางครั้งกลางค่ำกลางคืนก็ยังมีการแอบมาหว่านปุ๋ยเพื่อมิให้คู่แข่งหรือ เพื่อนบ้านรู้ เอากันอย่างนี้ก็มีให้เห็นกันถมไป
 
ปัญหา เรื่องการใส่ปุ๋ยมากนี้เองนอกจากจะทำให้ข้าวเฝือใบอ่อนแอง่ายต่อการเข้า ทำลายของเพลี้ยหนอนแมลงราไร จนทำให้ต้องสิ้นเปงืองเงินทองไปซื้อยาฆ่าแมลงสารเคมีกำจัดศัตรูพืชมาฉีดพ่น ให้สิ้นเปลืองเงินทองแล้ว ยังไปกระตุ้นให้เกิดสาหร่ายและพลงค์ตอนกำเนิดเกิดพันและรัดกอข้าวทำให้การ เจริญเติบโตช้า ส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของแสงแดดและอ๊ออกซิเจนไม่สามารถผ่านลงไปถึงพื้นดิน ด้านล่างได้สะดวก
 
ปัญหาของตะไคร่น้ำที่พันรัดกอข้าว นั้นเกิดจากการโอเว่อร์ไนโตรเจนจากการใส่ปุ๋ยที่มากเกินความจำเป็นนั่นเอง การใช้หินแร่ภูเขาไฟ "พูมิช" ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยจับตรึงแอมโมเนีย ไนไตรท์ ซึ่งจะแตกตัวไปเป็นไนโตรเจนทำให้ข้าวเฝือใบและมีมากจนเกิดการบลูมของแพลงค์ ตอนและสาหร่าย ทำให้ข้าวถูกแย่งปุ๋ย แสงแดดและออกซิเจน พี่นืองเกษตรกรที่ประสบพบเจอปัญหานี้แก้ง่ายเพียงใช้ "พูมิช" หว่านกระจายให้ทั่วแปลงนาในอัตรา 1-2 กระสอบต่อไร่ อีกทั้ง "พูมิช" สามารถช่วยจับสารพิษที่ตกค้างในดิน. (Toxin Binder) ช่วยให้ปลาจุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆอยู่กันอย่างสุขสบาย. เจริญเติบโตไปกับต้นข้าวช่วยโรคแมลง เพลี้ย หนอน ราและไรไปในตัว
 
คุณมนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

ไม่มีความคิดเห็น: