การปลูกข้าวของเกษตรกรยุคเก่ามักจะติดนิสัยที่ใส่ปุ๋ยมากเพื่อเพิ่มความเขียว
และอัดปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตแข่งขันกันเป็นนัยๆว่าข้าเจ๋งกว่าเอ็งปลูกข้าว
ได้ผลผลิตสูงกว่า
จึงมีคำหยอกล้อเชิงเหน็บแนมว่าทำนาเอาโล่ห์ทำนาเอาหน้าแต่ไม่ได้เงิน
เพราะมีต้นทุนที่หมดไปกับการใส่ปุ๋ยเสียมากต่อมาก
บางครั้งกลางค่ำกลางคืนก็ยังมีการแอบมาหว่านปุ๋ยเพื่อมิให้คู่แข่งหรือ
เพื่อนบ้านรู้ เอากันอย่างนี้ก็มีให้เห็นกันถมไป
ปัญหา
เรื่องการใส่ปุ๋ยมากนี้เองนอกจากจะทำให้ข้าวเฝือใบอ่อนแอง่ายต่อการเข้า
ทำลายของเพลี้ยหนอนแมลงราไร
จนทำให้ต้องสิ้นเปงืองเงินทองไปซื้อยาฆ่าแมลงสารเคมีกำจัดศัตรูพืชมาฉีดพ่น
ให้สิ้นเปลืองเงินทองแล้ว
ยังไปกระตุ้นให้เกิดสาหร่ายและพลงค์ตอนกำเนิดเกิดพันและรัดกอข้าวทำให้การ
เจริญเติบโตช้า
ส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของแสงแดดและอ๊ออกซิเจนไม่สามารถผ่านลงไปถึงพื้นดิน
ด้านล่างได้สะดวก
ปัญหาของตะไคร่น้ำที่พันรัดกอข้าว
นั้นเกิดจากการโอเว่อร์ไนโตรเจนจากการใส่ปุ๋ยที่มากเกินความจำเป็นนั่นเอง
การใช้หินแร่ภูเขาไฟ "พูมิช" ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยจับตรึงแอมโมเนีย
ไนไตรท์
ซึ่งจะแตกตัวไปเป็นไนโตรเจนทำให้ข้าวเฝือใบและมีมากจนเกิดการบลูมของแพลงค์
ตอนและสาหร่าย ทำให้ข้าวถูกแย่งปุ๋ย แสงแดดและออกซิเจน
พี่นืองเกษตรกรที่ประสบพบเจอปัญหานี้แก้ง่ายเพียงใช้ "พูมิช"
หว่านกระจายให้ทั่วแปลงนาในอัตรา 1-2 กระสอบต่อไร่ อีกทั้ง "พูมิช"
สามารถช่วยจับสารพิษที่ตกค้างในดิน. (Toxin Binder)
ช่วยให้ปลาจุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆอยู่กันอย่างสุขสบาย.
เจริญเติบโตไปกับต้นข้าวช่วยโรคแมลง เพลี้ย หนอน ราและไรไปในตัว
คุณมนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
|
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ลดปัญหาตะไคร่น้ำพันกอข้าวรัดกอโตช้า
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น