วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

หมอกหนา น้ำค้างแรง

ถึงแม้บรรยากาศใจกลางเมืองกรุงเทพฯ จะร้อนระอุเป็นดินแดงเดือดไปแล้ว แต่ต่างจังหวัดอย่างราชบุรี เพชรบุรี ก็มีโอกาสเจอหนาวเหน็บ เจอหมอกกับเขาเหมือนกัน ยิ่งตอนเช้าๆขับรถผ่านทุ่งนาช่วงพระอาทิตย์โผล่ขึ้นเหนือยอดหญ้า ใบข้าวรวงข้าวสีทองอร่าม อดใจไม่ไหวที่จะหยิบกล้องลัดทุ่งเก็บภาพท้องนามุมสวยๆในยามเช้า ยิ่งเดินไปเรื่อยๆยิ่งสัมผัสน้ำค้างที่เกาะบนใบข้าวแซมด้วยดอกหญ้าข้างคันนา เขียวขรึมสวยงามแบบสงบเยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูก ตกกลางคืนลมพัดแรงหนาวเหน็บเย็นจับใจ ต่างกับกรุงเทพฯ ที่นับวันยิ่งร้อนระอุ ดูทีท่าว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นไปได้ก็อยากให้ลมหนาวพัดพาอากาศเย็นๆ ผ่านไปในใจนักต่อสู้ นักการเมืองบ้าง ใจจะได้เย็นๆแล้วหันมาจับมือแก้ปัญหาวิกฤตของชาติ ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่ถอยหลังลงคลอง แค่สนองอารมณ์ ความคิดของคนกลุ่มๆหนึ่ง เอะอะก็ประท้วง เดินขบวนปิดประเทศ
ไอหมอก น้ำค้างนอกจากจะเพิ่มสวยงามแล้ว ยังซ่อนไปด้วยพิษภัยที่อาจเกิดจากเชื้อราโรคพืช สร้างความกังกลให้เกษตรกร ที่ต้องคอยระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา น้ำค้างหรือไอหมอกฟุ้งกระจายแถวไหน ใบพืชแถวนั้นจะเหี่ยวไหม้จากราน้ำค้างเข้าทำลาย ต้นไม้ ใบผักแปลงไหนบริเวณใดเกิดอาการดังที่ว่า แก้ง่ายๆแค่นำเปลือกมังคุดผึ่งลมแห้ง ตำให้แหลกแช่น้ำหรือเหล้าขาว กรองกากออกผสมเจือจางกับน้ำเปล่าฉีดพ่นทุกๆ 4-5 วัน/ครั้ง เพื่อล้างหมอกล้างเชื้อรา หากหมอกหนาหรือมีระบาดเพิ่มให้ฉีดพ่นสลับด้วยกับกับจุลินทรีย์บีเอส-พลายแก้ว ระงับไม่ให้ขยายวงกว้างออกไป วิธีนี้จะปลอดภัยทั้งผู้ใช้และผู้บริโภคเนื่องจากไม่ได้ใช้สารเคมีอันตราย เมื่อร่างกายปลอดภัย อายุก็ยืนยาว ครอบครัวก็มีแต่ความสุข ไม่ต้องคอยมาเดือดเนื้อร้อนใจจากโรคภัยไข้เจ็บ สอบถามเกี่ยวกับการใช้เปลือกมังคุดหรือจุลินทรีย์ได้ที่ ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ (02-9861680-2) หรือผู้เขียน (081-3983128)
เขียนและรายงานโดย : ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com
วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557  เสนอแนะติชมได้ที่ email : thaigreenagro@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น: