ปลูกหอมผักชีให้ดี ต้องอยู่ในช่วงที่มีราคาแพง

หอมผักชีจัดเป็นพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ที่อยู่คู่ครัวเรือนพี่น้องชาวไทยมาช้านาน  จัดเป็นพืชอาหารที่มีไว้สำหรับแต่งหน้า ปรุงรส เพิ่มกลิ่นให้อาหารโอชาน่ารับประทานเพิ่มมากขึ้น จนบางครั้งมีการนำผักชีไปเปรียบเปรยการทำงานหรือความรับผิดชอบของบุคคลหรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ไปแบบผ่านๆ ไม่ได้ทำงานในหน้าที่ของตนเองด้วยความรับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ แต่ทำเฉพาะเมื่อมีคนมาสำรวจตรวจตรา หรือทำให้ดีให้งามเมื่อยามมีหัวหน้ามาเยี่ยมชม จนเป็นที่มาของคำว่า “ผักชีโรยหน้า” นั่นเองครับ

ผักชี นั้นจัดเป็นพืชที่อ่อนแอ อ่อนไหวต่อสภาพภูมิอากาศที่ชื้นแฉะ โดยเฉพาะหน้าฝนนั้น ผักชีจะมีราคาแพงมาก เพราะเกษตรกรไม่สามารถเพาะปลูกและทำให้มีผลผลิตออกมาป้อนได้ทันต่อความต้อง การของตลาด เนื่องด้วยโรคแมลงรุมเร้า บวกกับความอ่อนแอของต้นหอมผักชี ที่พี่น้องเกษตรกรดูแลอย่างรูเท่าไม่ถึงการณ์ ปล่อยให้เม็ดฝนตกกระแทกทำให้ลำต้นและใบบอกช้ำ แตกหัก จนเป็นสาเหตุให้เชื้อราและแบคทีเรียโรคพืชเข้าทำลายได้โดยง่าย จึงให้หอมผักชีต่างๆ เหล่านั้น เป็นโรคกล้าเน่ายุบ โรคเน่าคอดิน โรคหมานอน (คือพอตื่นเช้าขึ้นมาปรากฏว่าต้นหอมผักชีในแปลงเน่ายุบราบเรียบเป็นหย่อมๆ คล้ายสุนัขเข้ามารบกวนขุดคุ้ยนอนทับลงบนแปลง แต่ความจริงเป็นเรื่องของเชื้อราและแบคทีเรีย) การปลูกหอมผักชีและเลี้ยงดูให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาขายในฤดูฝน หรือฤดูกาลที่มีราคาดี ควรเตรียมแปลงด้วยหินแร่ภูเขาไฟ “พูมิชซัลเฟอร์” ในอัตรา 1 – 2 กิโลกรัมต่อแปลงขนาด 2 X 5 เมตร เพื่อช่วยทำให้เซลล์ของต้นหอมผักชีมีภูมิต้านทาน มีความแข็งแรงต่อการเข้าทำลายของแบคทีเรียและเชื้อราโรคพืชตั้งแต่ต้นยังเล็ก อีกทั้งช่วยทำให้เซลล์แข็งทนแรงกระแทกจากเม็ดฝน ลม พายุ ที่จะทำให้ผักชีล้ม แตกหักได้ง่าย อีกทั้งควรใช้เชื้อราที่เป็นศัตรูของเชื้อราโรคพืชอย่าง ไตรโคเดอร์ม่า คลุกผสมกับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ในอัตรา 1 : 50 พรมน้ำพอชุ่มชื้น ใช้เศษไม้ใบหญ้าหรือฟางข้าวคลุมกองไว้แล้วนำมาหว่านกระจายให้ทั่วแปลง เพียงเท่านี้ ก็สามารถที่จะช่วยดูแลแก้ไขปัญหาการปลูกผักชีซ้ำที่ หรือการปลูกผักชีในช่วงที่มีปัญหามาก แต่เป็นช่วงฤดูที่มีราคาผลผลิตออกสู่ท้องตลาดค่อนข้างสูง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 0-2986-1680 – 2 คุณมนตรี  บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com  http://www.thaigreenagro.com/Aticle.aspx?id=14744&Param2=3