หลังจากที่ทางคณะ คสช.
ได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือชาวไร่ชาวนาจากโครงการรับจำนำข้าวที่ตกค้างอยู่อีกประมาณ
92,000 ล้านบาท ซึ่งแต่ก่อนรัฐบาลรักษาการของยิ่งลักษณ์
ชินวัตรไม่สามารถที่จะไขว้เอามาให้ชาวนาได้ เนื่องด้วยปัญหาจากการขัดขวางของม็อป
กปปส. และความไม่มีเสฐียรภาพในหลายๆด้านรวมถึงการทุจริตคอรัปขันในหลายๆขั้นตอน
นี่เองเป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดข่าวชาวนาผูกคอตายไปหลายหลาย
จริงเท็จจะเป็นอย่างไรก็สุดจะคาดเดาได้
แต่สรุปเอาง่ายๆได้ว่าในห้วงช่วงเวลาดังกล่าว มีข่าวนาผูกคอตายจริงๆ
|
เมื่อได้เงินมาก็ทำให้ชาวนาชาวไร่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาตินั้นได้ลืมตาอ้าปากมีโอกาสหน้าชื่นตาบานขึ้นมาได้บ้าง
ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม
ที่ว่าสั้นๆนั้นก็เพราะว่าเงินที่ได้มานั้นมีเจ้าหนี้มีเจ้าของปุ๋ยยาเคมีมารอคอยรับช่วงต่อไปในทันที
และพร้อมที่จะให้กู้ซื้อปุ๋ยยาต่อไปอีกในรอบฤดูกาลถัดไป
เนื่องด้วยเจ้าหนี้ก็หวังเงินของชาวนานำไปหมุนเวียนใช้ในกิจการอีกต่อหนึ่งหลังจากที่ติดค้างมาเนิ่นนานหลายเดือน
วัฎจักรของชาวไร่ชาวนาส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนี้กันเกือบทั้งนั้น
คือส่วนใหญ่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการทำไร่ไถนาจนร่ำรวยมีเงินเก็บสะสมได้มีแต่ชักหน้าไม่ถึงหลัง
เมื่อนานๆทีมีโครงการดีๆ
ที่จะทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ก็น่าจะรณรงค์ส่งเสริมแก้ไขจุดอ่อน
ปิดรอยรั่วทั้งปวง
และในระยะยาวจะต้องไม่ทำลายระบบราคาหรือระบบวงจรของตลาดข้าวก็น่าจะรีบนำมาใช้หรือแก้ไขปรับปรุง
เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวไร่ชาวนานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะปัจจุบันที่ดินที่จะทำก็แทบไม่
เปลี่ยนจากเจ้าของกลายมาเป็นผู้เช่ากันเกือบจะหมดประเทศแล้ว
การแข่งขันที่จะปลูกข้าวแล้วสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้นั้นจะต้องให้ตวามสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการลดต้นทุน
การลดเมล็ดพันธุ์ และลดการใช้ปุ๋ยยาเคมี ด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่มาจากธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก หรือเศษซากจากตอซังฟางข้าวด้วยการหยุดการเผา
การใช้หินแร่ภูเขาที่แร่ธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์จากเถ้าลาวา
การผลิตจุลินทรีย์ย่อยตอซังฟางข้าวใช้เองไม่ต้องขอ ไม่ต้องซื้อ การใช้พืชสมุนไพรไล่แมลง
การเพาะขยายจุลินทรีย์ราขาวบิวเวอร์เรีย ราเขียวไตรโคเดอร์ม่า บีทีปราบหนอน บีเอสปราเชื้อรา ฯลฯ
การสร้างสระน้ำประจำไร่นา
การศึกษาหาความรู้จดจำสังเกตุจากธรรมชาติหรือกูรูตามหน่วยงานต่างๆและจากคอมพิวเตอร์ซึ่งปัจจุบันถือว่ามีความสำคัญมาก
สิ่งต่างๆเหล่านี้สามารถที่จะอัพเกรดพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ชาวนาให้สามารถแก้ปัญหาต่างๆในรูปแบบที่มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ต่ำลงได้
เกษตรกรท่านใดอยากปรึกษาหารือเกี่ยวกับการทำเกษตรปลอดสารพิษสามารถโทรศัพท์เข้ามาปรึกษาหารือกับเราได้นะครับที่เบอร์โทรศัพท์
0-2986-1680-2 หรือ Call Center. 084-555-4205-9
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
|
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557
ชาวนายุคใหม่ต้องไร้สารพิษ ติดอาวุธทางปัญญา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น