สถานการณ์เกี่ยวกับงานบ้านการเมืองในห้วงช่วงนี้ก็คงจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้นำคสช.ท่านพลประยุทธ์
จันทร์โอชา ได้มีโอกาสทำงานว่ากันไปตามครรลองประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ที่บางครั้งก็ต้องรื้อเกมส์ล้างไพ่กันใหม่
แล้วค่อยวางระบบรูปแบบกันใหม่ให้เหมาะสมกับคนไทยจริง หน้าที่ที่จะต้องทำ 3 อย่างของคสช.
ก็เห็นจะเป็นการวางโรดแมปมุ่งหน้าไปสู่ความสงบและสามัคคีโดยเริ่มด้วยการปรองดอง
ปฏิรูปและรีบจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วเป็นอย่างน้อยไม่เกิน 2 ปี
|
ส่วน
กรณีที่มีการชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์ก็มีคนถามเข้ามาพอสมควรในเรื่องนี้
ก็รีบไปหาคำตอบจากอินเทอร์เน็ตโดยเร่งด่วน
ซึ่งก็มีข้อมูลออกมาให้ได้สืบค้นเยอะแยะมากมาย
จับใจความได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่นางเอกในหนังเรื่อง เดอะ ฮังเกอร์เกมส์
ได้ชูสามนิ้วขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการที่ไม่เห็นด้วยต่อระบบกฎเกณฑ์ของ
ประธานาธิบดีหรือหัวโจกตามเนื้อเรื่องที่กำหนดกฎเกณฑ์ให้ผู้คนเข้ามาเล่น
เกมส์ไล่ล่าเข่นฆ่ากันในสถานที่กำหนด
โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกเลือกให้เข้ามาเล่นจะไม่รอดและเสียชีวิตทั้งหมด
แต่สุดท้ายตามอารมณ์หนังซึ่งก็จะต้องมีนางเอกเป็นผู้เล่นและชนะในเกมส์ที่
ถูกกำหนดเอาไว้ในรูปแบบที่เกือบจะไม่มีวันชนะ
เมื่อนางเอกสามารถที่จะฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคเผด็จการณ์ในเกมส์มาได้
นางเอกของเรื่องจึงชูสามนิ้วขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะเหนืออำนาจ
เผด็จการณ์ทั้งปวง
บางคนอาจจะนึกเลยเถิดไปถึงการชูสามนิ้วของลูกเสือที่ใช้สัญลักษณ์นี้เหมือนกัน
แต่สามนิ้วของลูกเสือนั้นหมายถึง กฎสามข้อที่ว่า 1. ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์
2. ข้าจะช่วยเหลือและบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น 3. ข้า
จะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือในทุกๆข้อ
ซึ่งถ้าเป็นความหมายในอย่างหลังนี้ถือว่าเป็นบุญของคนไทยทักๆคนที่บ้านเมือง
จะสงบสุขและปล่อยให้ทหารเขาลองทำงานไปสักพักก่อนแล้วค่อยว่ากันว่าจะนำสาม
นิ้วในเหตุผลแรกออกมาใช้อีกก็ไม่สาย
เพราะไม่มีอำนาจอะไรที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าอำนาจของประชาชน
ซึ่งแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เราได้เห็นได้สัมผัสมาไม่กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
การปรับตัวในยุคคสช.ในภาคการเกษตรนั้นหลังจากที่ชาวนาค่อยๆทยอยรับเงินจนเกือบครบ
9.2 หมื่นล้านภายในเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้หน้าชื่นตาบานขึ้นมาได้บ้าง
มีเงินพอไปทำทุนต่อในการเตรียมเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยยาค่าเทอม
แต่ส่วนใหญ่ราคาต้นทุนการผลิตจะปรับตัวสูงขึ้นลอยลมบนไม่ยอมหล่นตามราคาข้าวที่เป็นไปตามกลไกราคาของตลาดโลก
และสูงขึ้นจากนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ปิดฉากไปกับรัฐบาล
การช่วยตนเองของพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ชาวนาก็เห็นเป็นเรื่องการใช้วัสดุทดแทนปุ๋ยเคมีจากกลุ่มหินแร่ภูเขาไฟปรับปรุงบำรุงดิน
(Soil Treatment). หรือหินแร่ภูเขาไฟใช้ในการทำปุ๋ยละลายช้า
(Slow Release Fertilizer) การผลิตจุลินทรีย์ขี้ควายและจุลินทรีย์หน่อกล้วยไว้ใช้ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุซากพืชซากสัตว์
การหมักสมุนไพรไล่แมลง
การหมักขยายหัวเชื้อจุลินทรีย์ปราบหนอนเพลี้ยแมลงราไรอย่างง่ายสไตล์ชาวบ้าน ฯลฯ แนวทางตามวถิถีชาวบ้าน
แนวพึ่งพาตนเองน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยลดต้นทุนให้พี่น้องเกษตรกรได้ไม่มากก็น้อย
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
|
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557
แนวทางลดต้นทุนการทำเกษตรยุค คสช.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น