เกษตรกร
หลายพื้นที่ประสบปัญหาเพาะปลูกไม่ได้ผล ดินขาดความอุดมสมบูรณ์
เนื่องจากปลูกพืชชนิดเดียวซ้ำๆกัน ไม่มีการหมุนเวียน
ทั้งยังใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว ทำให้ดินเป็นกรดขาดสารอาหาร
จากที่เคยร่วนซุยกลายเป็นเหนียวแน่นไม่ระบายน้ำ
จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อดินต่อพืชจะค่อยๆลดลง
ดินก็เริ่มตายใส่ปุ๋ยบำรุงอะไรก็ไม่ได้ผล
ทางเลือกที่ดีก่อนปลูกควรเตรียมดิน ปรับสภาพให้เหมาะสม เริ่มตั้งแต่ไถพรวน
ย่อยดิน กำจัดวัชพืช ฯลฯ การปลูกมะกรูดเพื่อตัดใบมาปรุงแต่งรสชาติอาหาร
แปรรูปสกัดกลิ่น ซึ่งผู้เขียนมองว่ามันสามารถเป็นอาชีพเสริม
อาชีพหลักให้เกษตรกรได้ไม้แพ้พืชชนิดอื่น |
มะกรูดชอบดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี ไม่ท่วมขัง pH ระหว่าง 5.8-6.3
และมีอินทรียวัตถุสูง ส่วนระยะปลูกก็มีผลต่อการเตรียมแปลงไม่น้อย
เช่นแปลงกว้าง 1 เมตร ก็ควรยกร่องสูง 20-25 เซนติเมตร ห่างจากกึ่งกลาง 1.5
เมตร ระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร สลับเป็นฟันปลา
ไม่ควรเว้นช่วงห่างเกินไปจะทำให้ตัดใบลำบาก
ส่วนพันธุ์นั้นสามารถใช้เมล็ดเพาะ ปักชำ หรือกิ่งตอนก็ได้
ที่สำคัญกิ่งที่จะปลูกต้องปลอดแคงเกอร์
หากปล่อยให้แพร่ระบาดเข้าแปลงจะสร้างปัญหาและส่งผลกระทบระยะยาว ก่อนปลูกต้นมะกรูดควรนำพูมิชซัลเฟอร์ผสมปุ๋ยคอกก่อนผสมลงดินเพื่อเพิ่มธาตุ อาหาร หลุมปลูกควรมีขนาดกว้าง x ยาว x ลึก ประมาณ 80 เซนติเมตร ก่อนวางกล้าพันธุ์ลงปลูกให้หว่านไตรโคเดอร์ม่ารองก้นหลุมช่วยป้องกันรากเน่า กลบโคนต้นแล้วหว่านคลุมดินด้วยเศษไม้ใบหญ้าแห้งรักษาความชื้นหน้าดิน การปลูกที่ดีควรหันหน้าใบไปด้านทิศตะวันออกเพื่อรับแสง และควรปลูกในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะดีที่สุด เพราะถ้าปลูกหน้าฝนก็จะเจอปัญหาราเนื่องจากความชื้นสูง หลุมปลูกไม่ควรรองก้นด้วยยาฆ่าแมลงหรือคาร์โบฟูราน หากมีปลวกหรือด้วงแมลงในดินให้ใช้เมธาไรเซียมหรือสะเดาบดคลุกผสมรองก้นแทน หลังปลูกได้ประมาณ 1 เดือนให้ใส่ยูเรีย(46-0-0) ผสมกับปุ๋ยคอก(ขี้วัวเก่า)และพูมิชซัลเฟอร์ หว่านห่างจากโคนต้นประมาณ 1-2 คืบ ถ้าเป็นหน้าแล้งก็ให้นำเปลือกถั่วเขียวมาหว่านคลุมรอบๆโคนต้น รักษาความชื้นช่วยกระตุ้นการแตกยอดแตกรากใหม่ แรกๆ ก็ควรหมั่นรดน้ำให้ชื้น ช่วยให้มะกรูดตั้งต้นแตกรากแตกใบอ่อนได้ไวขึ้น การใส่ปุ๋ยควรผสมผสานระหว่างปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีในปริมาณที่เหมาะสม มะกรูดตัดใบจะใช้ไนโตรเจนค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงควรฉีดพ่นปุ๋ยเกร็ดสูตร 30-20-10 หรือสูตร 20-20-20 ทุกๆ 10-15 วัน/ครั้ง สลับกับซิลิโคเทรซ +ซิงค์คีเลท 75%+แมกนีเซียม+ไคโตซาน MTและจิบเบอเรลลิน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า มะกรูดตัดใบย่อมต้องการแมกนีเซียม และสังกะสี(ซิงค์) สูงตามไปด้วย ส่วนปุ๋ยเกร็ดสูตร 30-20-10+จิบเบอเรลลินช่วยให้มะกรูดแตกยอดใหม่ไวขึ้น และปุ๋ยเกร็ดสูตร 20-20-20 +ซิลิโคเทรซ ช่วยบำรุงต้นลดการขาดธาตุอาหาร แมลงศัตรูของมะกรูดส่วนใหญ่เป็นหนอนที่เกิดจากผีเสื้อกลางคืน ที่คอยจ้องทำลายกัดกินใบช่วงยอดอ่อน เกษตรกรต้องขยันคอยตรวจจับแล้วทำลายทิ้ง หรือฉีดพ่นสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงๆ รสชาติขมๆอย่างสะเดาบด บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจรร่วมหรือสลับกับบิวเวอร์เรีย 5-7 วัน/ครั้ง หากหนอนระบาดก็ให้ฉีดพ่นบีที+น้ำสะเดาสลับ 3-4 วัน/ครั้ง ช่วยยับยั้งการกัดทำลายของหนอนก่อนจะเข้าดักแด้อีกแรงหนึ่ง การดูแลก็จะหนักอยู่ช่วง 1-2 เดือนแรกที่ต้องคอยรดน้ำเช้าเย็นวันละ 2 เวลา พออายุ 8 เดือนก็เริ่มบำรุงต้นด้วยปุ๋ยคอกปุ๋ยอินทรีย์หว่านรอบโคนต้น ลดน้ำเหลือวันละครั้ง พอย่างเข้าปีที่ 2 ก็เริ่มตัดใบออกจำหน่ายได้ โดยเลือกตัดกิ่งที่ยาวๆไว้ก่อน ไม่ต้องซอยสั้นเหมือนตัดแต่งกิ่ง หรือยาวประมาณ 50 เซนติเมตรขึ้นไป นำมามัดเป็นกำๆละ7-8 กิ่ง เมื่อเก็บผลผลิตเสร็จก็พักต้นประมาณ 4 เดือน ตัดแต่งบำรุงให้แตกกิ่งใหม่ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช ขูดดินท้องร่องขึ้นกลบโคนต้น ไม่นานมะกรูดก็จะผลิยอดแตกใบให้ได้เก็บดังเดิม สลับหมุนเวียนทุก 4 เดือน/ครั้ง/รุ่นตลอดทั้งปี มะกรูดตัดใบขายจะเน้นเฉพาะการเจริญเติบโตของกิ่งใบเป็นหลัก การตัดแต่งกิ่งเป็นการกระตุ้นให้แตกยอดแตกใบใหม่ การดูแลรักษาต้นเพื่อไว้ตัดใบขาย ควรดูแลรักษามั่นบำรุงต้นใส่ปุ๋ย ฉีดพ่นสมุนไพรอย่างสะเดาบดหรือจุลินทรีย์อย่างบิวเวอร์เรีย และบีทีอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาวน้ำค้างแรง ราดำ ราสนิม ราส้มฯลฯ ชอบระบาดให้ฉีดพ่นล้างสปอร์ด้วยน้ำเปลือกมังคุดก่อน แล้วตามด้วยบีเอส-พลายแก้ว 3-5 วัน/ครั้ง แค่นี้ก็สามารถยับยั้งการแพร่กระจายของราและแคงเกอร์ได้แล้วละครับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-9861680-2 หรือผู้เขียน 081-3983128 เขียนโดย : คุณเอกรินทร์ ช่วยชู (นักวิชาการชมรมฯ) ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com http://www.thaigreenagro.com/Aticle.aspx?id=15828&Param2=6 |
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557
มะกรูดตัดใบขาย ปลอดภัยปลอดสารตกค้าง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น