หลังจากนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นอันล้มพังพาบไปตามที่เราๆท่านๆได้ทราบเหตุผลกันดีอยู่แล้ว
ส่งผลทำให้ราคาข้าวเปลือกในขณะนี้ขึ้นๆลงๆอยู่ที่ระดับ 5-6พันบาท ทำให้รายได้ชาวนาลดหดหายไปมากพอสมควรประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ เพราะจากที่ขายได้ในราคาจำนำหักความชื้นจากการขายข้าวสดตันละ10,000-12,000 บาท เรียกว่าหดหายไปครึ่งต่อครึ่ง
|
รายได้จากราคาข้าวที่ลดลงสวนทางกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นจึงทำให้เกษตรกรชาวไร่ชาวนาไม่สามารถดำรงชีพด้วยการปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว
จะต้องปลูกผักตากหญ้าหาอาชีพเสริมมาทดแทน แต่ก็ไม่ได้ผลมากนักเพราะราคาพืชผักก็ขึ้นๆลงๆตามอุปสงค์และอุปทานที่เป็นไปอย่างเสรี
เกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศจึงยังคงยากจนอยู่
รัฐบาลได้มีการประมูลข้าวผ่านตลาดเกษตรล่วงหน้าหรือเอเฟตไปแล้วกว่า
500,000 ตัน ได้เงินเข้ากระเป๋าไปแล้ว 7,000 กว่าล้านบาท
และตั้งเป้าจะหยุดการประมูลทันทีเมื่อครบ 1 ล้านตัน
ความจริงแล้วรัฐบาลก็มีการขายแบบระบบจีทูจีหรือรัฐต่อรัฐ ไม่ว่าจะเป็นจีน
อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
จึงทำให้ข้าวที่มีอยู่ในสต๊อคของรัฐบาลพอจะทุเลาเบาบางลงไปได้บ้างและมีเงินใช้หนี้
ธกส. ไปเกือบ 20,000 ล้านแล้วในขณะนี้ แต่ราคาที่ขายออกไปนั้นจะต้องแข่งกับเวียดนาม
กัมพูชา พม่า เวียดนามซึ่งขายข้าวออกไปในราคาที่ต่ำกว่าไทยค่อนข้างมาก
ส่งผลให้ราคาข้าวในปัจจุบันตกต่ำและเป็นไปตามกลไกตลาด
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยเราที่กำลังผันผวน
ค่าเงินบาทอ่อน จากสภาวะการทางการเมือง การท่องเที่ยว การลงทุนของภาคเอกชนที่หดหาย
ทำให้ระดับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเราลดเหลือเพียงร้อยละ 1 กว่าๆ จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ร้อย 2กว่าๆ
จะอย่างไรก็ตามการที่ค่าเงินบาทอ่อนก็มีผลดีอยู่บ้างตรงที่การส่งออกโดย
เฉพาะการส่งออกข้าวที่จะช่วยทำให้ระดับราคาข้าวของไทยเราเพิ่มขึ้นได้บ้าง
แต่ในช่วงนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นฤดูการที่ผลผลิตข้าวกำลังออกมาสมทบกับสต๊อค
เก่าจึงทำให้ราคาข้าวร่วงหล่นลงมาสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลได้ล้มเลิกไปราคา
ข้าวจึงยังคงต่ำอยู่
ราคาข้าวตกต่ำแต่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าปุ๋ยเคมี
ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเกือบ 100
เปอร์เซ็นต์
เมื่อเกษตรกรชาวไร่ชาวนาต้องพึ่งพิงอิงอาศัยปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงแต่เพียงอย่างเดียวจึงทำให้ต้นทุนยังคงสูงอยู่
ปลูกข้าวขายผลผลิตก็ไม่คุ้มทุน
แต่ถ้าเปลี่ยนรูปแบบกลยุทธ์วิธีการใหม่โดยอาศัยอินทรีย์วัตถุ เติมความสมบูรณ์ให้แก่ดินด้วยหินแร่ภูเขาไฟ
ใช้จุลินทรีย์ชีวภาพในการป้งอกันกำจัดโรคและแมลงและรูปแบบกระบวนการอื่นๆที่ปลอดภัยไร้สารพิษก็จะทำให้ต้นทุนลดผลผลิตเพิ่ม
โดยเฉพาะต้นทุนนี้จะลดต่ำลงจากเดิมมากถึง 60-70 เปอร์เซ็นต์
สนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็โทรศัพท์มาสอบถามกันได้ที่ 0-2986-1680-2 นะครับ
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
|
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ข้าวตันละไม่ถึงหมื่น แต่ต้นทุนชาวนาจากสารเคมีเกือบ 100%
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น