วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มะนาวยังแพง เพราะหน้าแล้งไม่มีมะนาว

การทำมะนาวหน้าแล้ง มะนาวนอกฤดู มะทะวายนั้น ถ้ามองลึกลงไปในรายละเอียดถือว่ามีความยุ่งยากไม่น้อย ใช่ว่าจะทำกันได้ง่าย ถือแม้ว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ผิดแผกแตกต่างไปจากธรรมชาติก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกในพื้นที่ดินทราย การปลูกในวงบ่อซิเมนต์ โอ่ง ไห ที่ชำรุดหรือวัสดุที่คล้ายๆใกล้เคียงกัน เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมน้ำและอาหารโดยคาดว่าน่าจะช่วยทำให้มะนาวนั้นติดดอกออกผลได้ง่าย

ข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งคือต้นมะนาวจะพัฒนาตาดอกออกมาได้นั้นจะต้องอาศัยสัดส่วนของปริมาณไนโตรเจนและคาร์บอนที่ห่างกัน เช่นถ้า คาร์บอนเท่ากับ15 ไนโตรเจนเท่ากับ 1 การแตกใบอ่อนจะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าสัดส่วนที่มีคาร์บอน 28 ต่อไนโตรเจน 1 ซึ่งมีช่องว่างระหว่าง คาร์บอนและไนโตรเจนกว้าง จึงสามารถพัฒนาให้เกิดตาดอกได้ง่าย

ประเด็นคือจะต้องพยายามทำให้มะนาวออกดอกติดผลหรือมี ซีเอ็นเรโชที่กว้างในช่วงเดือนที่ต้อง คือออกดอกแล้วนับต่อไปอีก 5-6 เดือนก็สามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงที่มีราคาแพง เช่นถ้าเราต้องการให้มะนาวเก็บผลผลิตได้ในเดือน มีนาคม-เมษายน ท่านผู้อ่านก็จะต้องทำให้มะนาวออกดอกได้ในเดือน พฤศจิกายน - ธันวาคม ซึ่งนั่นก็หมายความสภาพของต้นก็จะต้องมีความพร้อม มีความสมบูรณ์มาก่อนออกดอกอีก 2-3 แล้วแต่เจ้าของสวนจะวางแผน แต่ที่แน่ถ้าจะให้ได้มะนาวที่มีคุณภาพ ต้องไม่ปล่อยให้มะนาวมีดอกและผลตกค้างมาถึงช่วงฤดูกาลที่จะเปิดดอกเพื่อให้ออกในช่วงที่มะนาวมีราคา เพราะจะทำให้สูญเสียความสมบูรณ์ของต้นแม่ เนื่องด้วยดอกและผลที่ติดมาด้วยนั้นจะแย่งอาหารไปก่อน

ฤดูกาลปรกติของมะนาวจะติดดอกออกผลตามฤดูกาลในรอบแรก คือเกิดดอกในเดือน มีนาคม-เมษายน และเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือน สิงหาคม-กันยายน. และรอบที่สองเริ่มติดดอกในช่วงเดือน กรกฎาคม- สิงหาคม. และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือน ธันวาคม-มกราคม ฉะนั้นถ้าเราต้องการให้มะนาวเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนโดยประมาณ ก็จะต้องทำลายดอกผลของมะนาวที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลของเดือน กรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมให้เรียบร้อยเสียก่อน และทำการตัดแต่งโครงสร้างทรงพุ่มให้โปร่งมีแสงเล็ดลอดลงมาได้ อย่าปล่อยให้ทรงพุ่มหนาทึบจะทำให้เกิดโรคแมลงเข้ามาอยู่อาศัยและทำลายได้ง่าย
 
การดูแลให้มะนาวมีความสมบูรณ์ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริมและธาตุพิเศษอย่างหินแร่ภูเขาไฟจะช่วยทำให้มะนาวมีความพร้อมและความสมบูรณ์ต่อการทำมะนาวนอกฤดูได้ดียิ่งขึ้น  ในระหว่างนี้พยายามอย่าให้มีโรคแมลงเข้ามาทำลายรบกวนโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้สภาพความสมบูรณ์ของต้นมะนาวลดน้อยและอ่อนแอไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูดอกผลที่จะเกิดขึ้นในเดือน พฤศจิกายนได้

หลังจากที่ได้พยายามบำรุงดูแลรักษามาจนใกล้ระยะเปิดตาดอกในเดือน พฤศจิกายนและธันวาคมนี้ โดยส่วนตัวผู้เขียนคิดว่ามีความสำคัญมากๆในการที่จะควบคุมปริมาณของซีเอ็นเรโชให้กว้าง ไม่ว่าจะเป็นการเก็บกวาดอินทรีย์วัตถุหรือปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกรอบทรงพุ่มโคนต้น. การใช้หินแร่ภูเขาหว่านเพื่อกักเก็บไนโตรเจนส่วนเกิน การเพิ่มคาร์บอนด้วยฮอร์โมนไข่ การยับยั้งใบอ่อนที่จะเกิดจากฝนหลงฤดูที่นำพาไนโตรเจนมากับเม็ดฝนด้วย หรือการควบคุมน้ำแต่ไม่ปล่อยให้อดทรมานจนต้นโทรม  ฯลฯ เทคนิคสำคัญอย่างการเพิ่มคาร์บอนด้วยฮอร์โมนไข่ น้ำตาลทรายและน้ำมะพร้าวอ่อน นั้นถือว่ามีความสำคัญมากในระยะนี้ ถ้ายังมีใบอ่อนเกิดอยู่แม้ฉีดพ่นทุกวันก็ต้องยอม เพราะไหนๆก็เตรียมตัวเตรียมใจเตรียมพร้อมมาต้องหลายเดือนแล้ว กับเพียงแค่ไม่กี่เดือนจะได้ดอกผลอยู่แล้วยังไม่ให้ความเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดก็อาจจะเสียการใหญ่ได้
 
รายละเอียดต่างๆอีกเยอะแยะมากมายที่หมายถึงต้องอาศัยระยะ เวลาและประสบการณ์ และหมายถึงความยากนั่นเองครับ ที่ยังคงทำให้มะนาวในช่วงหน้าแล้งนี้ยังแพงอยู่ เนื่องด้วยเซียนมะนาวส่วนใหญ่มักจะมีรายได้จากการตอนกิ่ง เสียบตอและติดตามากกว่าที่จะมีรายได้จากการขายผล อันนี้พี่น้องเกษตรกรจึงควรพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบว่าเรามีความพร้อมและ ความรักในการเกษตรจริงหรือไม่มิฉะนึ้นก็จะทำให้สูญเสียเงินทองที่สะสมมาโดย ใช่เหตุยิ่งในสภาวะข้าวยากหมากแพงนี้ด้วยแล้วจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ก็ขอฝากให้พิจารณากันดูนะครับส่วนท่านจะตัดสินใจอย่างไรก็สุดแท้แต่จะดำเนิน การกันไป

มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com.

ไม่มีความคิดเห็น: