วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ต้องลดต้นทุนการทำนาข้าวทางรอดเดียวในยุคนี้ ตอนที่1


เมื่อกล่าวถึงสถานการณ์เกี่ยวกับราคาสินค้าภาคเกษตร ณ เวลานี้บอกได้คำเดียวว่าแย่มากๆถึงมากที่สุดครับ โดยเฉพาะ ข้าว และยางพารา ที่ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ราคาข้าวอยู่ที่เกวียนละไม่เกิน 7-8 พันบาท ยางพารากิโลกรัมละ 57 บาท เกษตรกรเริ่มแย่ไม่ค่อยจับจ่ายใช้สอย ทำให้เศรษฐกิจด้านอื่นๆซบเซาลงไปด้วย เช่น สินค้าด้านอุปโภค-บริโภค แต่ที่หนักอยู่ตอนนี้น่าจะเป็นชาวนาที่ต้องเจอวิบากกรรม เรื่องของราคาข้าวตกต่ำ ต้นทุนในการทำนาสูง ซึ่งตอนนี้ต้นทุนการทำนาใน 1 รอบอยู่ที่เกือบ 8,000 บาท บางคนก็มีต้นทุนเรื่องค่าเช่าเข้ามาอีก ยิ่งค่าเช่าในปัจจุบันนี้ยึดตามช่วงที่ราคาข้าวช่วง 15000 บาท โดยค่าเช่านาตอนนี้อยู่ที่ 2000 บาท ต่อไร่ต่อการทำนา 1 ครั้ง ต่างจากแต่   ก่อนที่ราคาค่าเช่านาอยู่ที่ไร่ละ 1000-2000 บาทต่อปี จนถึงขั้นมีการร้องไปยัง ค.ส.ช.ให้เข้ามาควบคุมเรื่องราคาค่าเช่านาที่สูงเกินจริงอยู่ในเวลานี้
ทางทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษมองว่าทางรอดเดียวในเวลานี้เกี่ยวกับการทำนาก็คือการลดต้นทุนการการทำ ซึ่งการลดต้นทุนการทำนาสามารถทำได้หลากหลายวิธี ซึ่งในการช่วยลดต้นทุนการทำนาได้ก็คือ การใช้ปุ๋ย-ยา ให้เป็น ขยายความของคำว่าการใช้ปุ๋ย-ยาให้เป็นก็คือ การใช้ปุ๋ย-ยา ที่จำเป็นมีประโยชน์สำหรับข้าว สิ่งไหนที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไปซะ ใช้เฉพาะตัวที่จำเป็นจริงๆ ก็น่าแปลงใจเหมือนกันเกี่ยวกับพฤษติกรรมการทำนาของชาวนา ซึ่งเรื่องของราคาข้าวตกต่ำนี้เคยมีมาแล้วเมื่อปี 2552 ในตอนนั้นชาวนาจะประหยัดเรื่องของการใส่ปุ๋ยฉีดยากันมาก แต่พอมาช่วงที่มี ประกันราคาข้าว ต่อด้วยรับจำนำ ชาวนาก็จะเปลี่ยนมาใช้ยาแพงๆ ชุดละเป็นพัน ทั้งที่ภายในตัวยาหรือฮอร์โมนที่ชาวนาเรียกกันจนติดปากที่จริงแล้วมันก็คือหลายอาหารรองธาตุอาหารเสริมของพืช เช่น แมกนีเซียม โบรอน สังกะสี วิตามิน เหล็ก ทองแดง แมงกานีส เป็นต้น ซึ่งมีอยู่ทั่วไปหลากหลายตามร้านเคมีเกษตร เราควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารครบ  อัตราการใช้น้อย(เพราะอัตราการใช้น้องแสดงว่ามีปริมาณสารที่เข้มข้น) มาใช้ไมจำเป็นว่าต้องยาดียาแพงเสมอไป ต้นทุนเรื่องค่ายาฮอร์โมนของชาวนาทุกวันนี้จากที่เช็คข้อมูลดูแล้วตกอยู่ไร่ละ 1000-2000 บาทเลยทีเดียว ถ้าเราเซฟเรื่องการฉีดฮอร์โมนลงไปได้แล้ว ก็เป็นการประหยัดต้นทุนลงไปได้อีกทางหนึ่ง
ฮอร์โมนสำหรับข้าวของทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษแนะขำให้ใช้ ซิลิโคเทรซ + ไวตาไลเซ่อร์ + ไคโตซานMT เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธาตุอาหารพืช เป็นอาหารเสริมให้กับพืชทุกชนิดรวมไปถึงข้าวด้วย ถ้ารวมผลิตภัณฑ์ 3 อย่างนี้เข้าด้วยกันแล้วจะได้ธาตุอาหารรองเสริมครบเลยแถมมีธาตุพิเศษอย่าง ไคโตซานและซิลิก้าด้วย แถมอัตราการใช้ก็น้อยมากเพียง ใช้อย่างละ 5 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร ชุดหึ่งก็ฉีดได้ 2000 ลิตร ฉีดได้ 50 ไร่ โดยต้นทุนเพียง 500 บาท ประเด็นที่ผู้เขียนอยากจะสื่อกับชาวนาก็คือ การทำนาไม่จำเป็นว่าต้องใช้ของแพงเสมอไป ของดีราคาถูกก็มี เพียงแต่เรารู้จักเลือกรู้จักสรรหาสิ่งที่มีประโยคและจำเป็นจริงๆ สิ่งที่ไม่จำเป็นต่างๆเช่น ยาฉีดให้เมล็ดใส ข้าวไม่ลาย ยาฉีดให้ข้าวออกพร้อมกัน ยาฉีดกระชากรวง ต่างๆเหล่านี้ให้ตัดออกซะจะฉีดให้เมล็ดเหลืองสวยไปทำไมในเมื่อโรงสีก็ซื้อคุณราคาเดียวกันกับข้าวคนอื่นๆ เราควรทำนาให้เป็นนะครับ เพื่อให้มีกำไรเหลือไปใช้หนี้ต่างๆที่แบกรับอยู่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณจตุโชค จันทรภูมี โทร.085-9205846 หรือสอบถามไปที่เบอร์ HOTLINE ส่วยด่วนของทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษที่เบอร์ 084-5554205 ถึง 084-5554209
เขียนและรายงานโดย : นายจตุโชค จันทรภูมี (นักวิชาการ)

ไม่มีความคิดเห็น: