ข่าวคราวเกี่ยวกับประมงที่มั่นอกมั่นใจว่าผลผลิตกุ้งปีนี้น่าจะได้มากถึง
3.1-3.2
แสนตัน
เนื่องด้วยนโยบายเกี่ยวการเพิ่มปริมาณพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กุ้ง 1,500 คู่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ในเรื่องการแก้ไขสายเลือดชิด ที่จะช่วยในเรื่องของความแข็งแรงขจัดความอ่อนแอให้หมดไป ซึ่งจะช่วยทำให้กุ้งมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น โอกาสที่จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บต่างก็จะมีจำนวนลดน้อยลง อีกทั้งนโยบายในการเปิดห้องแลปให้บริการอย่างทั่วถึงทั่วประเทศและมีกรณี ตัวอย่างให้ไว้ดูเป็นตัวอย่างอยู่หลายกรณี และอีกหนึ่งโครงการคือการผลิตจุลินทรีย์ ปม.1 ซึ่ง อยู่ในกลุ่มโปรไบโอติกก็จะช่วยทำให้กระบวนการย่อยของกุ้งมีประสิทธิภาพ ดีมากยิ่งขึ้น จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้กรมประมงมั่นใจว่าสถานการณ์กุ้งน่าจะดีขึ้น โดยที่เอกชนนั้นคาดการณ์สถานการณ์แตกต่างจากกรมประมงคือคาดว่าจะสามารถผลิต กุ้งได้เพียง 2.7 แสนตันเพียงเท่านั้น |
ก็ต้องตามลุ้นกันไปล่ะครับท่านผู้อ่าน เพราะสถานการณ์ตอนนี้เท่าที่ทราบก็อาจจะเรียกได้ว่าสถานการณ์ยังคละคลุ้งตลบ
อบอวนไปด้วยฝุ่นควัน เพราะโรงงานผลิตกุ้งแช่แข็งก็ล้มหายตายจากไปมากและโรงงานบริษัทใหญ่ๆก็อพยพ
โยกย้ายไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะอินเดียก็ถือว่ามากโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆชั้น นำของบ้านเรา
ส่วนโรงงานที่อยู่ก็เปลี่ยนแปลงหันเหไปผลิตสินค้าชนิดอื่นทดแทน จึงทำให้สถานการณ์กุ้งในห้วงช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
อีกทั้งปัญหาในเรื่องของโรคอีเอ็มเอสที่ยังแก้ไม่ตกก็ถือเป็นตัวฉุดรั้ง สถานการณ์กุ้งให้ตกต่ำด้วยเช่นกัน
การลดต้นทุนด้วยการทำบ่อให้สะอาด ให้อาหารแบบพอเหมาะพอดีมีการเช็คยอ นอกจากจะช่วยทำให้กุ้งไม่เครียด แข็งแรง โตเร็วแล้ว ยังช่วยลดปริมาณการเน่าเสียซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดก๊าซแอมโมเนีย ซึ่งในกระบวนการย่อยสลายท้ายที่สุดจะเกิดก๊าซไนโตรเจนที่ทำให้สาหร่ายหรือแพ ลงค์ตอนในท้องน้ำเจริญเติบโตงอกงามจำนวนมากก่อให้เกิดน้ำเขียวน้ำหนืดเหนียว ข้นก่อให้เกิดปัญหาพีเอชแกว่งในเวลากลางวันและกลางคืนทำให้กุ้งหรือปลา เครียดโตช้า ดังนั้นการใช้จุลิทรีย์ที่ช่วยย่อยสลายขี้กุ้งโดยเฉพาะหรือหินภูเขาไฟจับ ก๊าซของเสียที่พื้นบ่อก็จะช่วยแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียช่วยให้กุ้งไม่เครียดโต เร็วมากยิ่งขึ้น ต้นทุนต่ำเพราะไม่ต้องใช้ยาหรือวิตามินมาช่วยเสริมเพิ่มเติมมากจนเกินไป มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com |
บล็อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเสนอผลงาน แนวทาง ทางเลือกใหม่ ในการทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมผสมผสานกับการพาณิชย์ กล่าวคือ ช่วยเหลือให้คำปรึกษา แนะนำชี้ทางถูกผิด 30% ผสมผสานงานขาย 70% เพื่อความคงอยู่ขององค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัดกล่าวคือชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ปรัชญาประจำตัวคือ "ทุกแนวคิด ทุกคำตอบ ทุกงานวิชาการ เพื่อเกษตรกรไทย"สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:คุณเอกรินทร์ ช่วยชู โทร.081-3983128
วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
น้ำหนืดน้ำเขียว เกี่ยวกับแอมโมเนียและไนไตรท์ในบ่อเลี้ยงกุ้ง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น