วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

ลดต้นทุนการทำนา ทางรอดเดียวของชาวนาในยามนี้ ตอนที่ 2

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้เขียนได้แนะนำเกี่ยวกับเรื่องการลดต้นทุนการทำนา ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยเกษตรกรชาวนาในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่นึ่ง ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ เรื่องโครงการจำนำข้าวยังไม่ชัดเจน ราคาขายข้าวหน้าโรงสีต่ำ สิ่งที่ทำได้ของชาวนาในตอนนี้คือต้องช่วยตัวเอง เมื่อราคาถูก เราก็ต้องลดต้นทุนให้เหลือแค่ 2000-3000 บาท ซึ่งทางผู้เขียนได้แนะนำการลดต้นทุนการทำนาตั้งแต่ การไม่เผาฟาง ,การใช้พันธุ์ข้าว 1-2 ถัง ต่อไร่, การทำให้ข้าวมีภูมิต้านทานโรคแมลงด้วยการใช้พูมิชซัลเฟอร์  บทความในตอนนี้จะเป็นวิธีการทำนาลดต้นทุนต่อจากตอนที่แล้ว หลังจากที่ทำการหว่านข้าวแล้วก็จะใส่ปุ๋ยฉีดฮอร์โมน ตามที่เคยทำมา
วิธีการลดต้นทุนการทำนาหลังจากหว่านข้าวไปแล้ว
-                   การลดต้นทุนค่าปุ๋ย โดยการใช้ปุ๋ยน้อยลงโดยการใช้หินแร่ภูเขาไฟพูมิชซัลเฟอร์คลุกปุ๋ยเพื่อทำให้ปุ๋ยกลายเป็นปุ๋ยละลายช้า เราสามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยลงไปได้เยอะ ยกตัวอย่างปกติเคยซื้อปุ๋ย 3 กระสอบ มารอบนี้ซื้อปุ๋ย 2 กระสอบ พูมิชซัลเฟอร์ 1 กระสอบ คลุกผสมกันแล้วนำไปหว่านในพื้นที่เท่าเดิม ประสิทธิภาพรับรองว่าดีกว่าการใส่ปุ๋ยเคมีแต่เพียงอย่างเดียว เพราะพูมิชซัลเฟอร์จะช่วยให้ปุ๋ยที่ผสมกลายเป็นปุ๋ยละลายช้า ทำให้ข้าวกินปุ๋ยแค่วันละพออิ่มไม่กินแบบตะกะตะกาม ช่วยทำให้ข้าวมีอาหารกินยาวนานนับไปเลย 30-45 วันข้าวยังเขียวอยู่เลย ทำให้ การใส่ปุ๋ยรอบ 2 ช่วงข้าวอายุ 50-60 วันแทบไม่ต้องใส่เลยหรือใส่น้อยลง ทำให้ลดต้นทุนค่าปุ๋ยใส่รอบ2 ไปได้อีก และยังช่วยลดเรื่องการฉีดฮอร์โมนประหยัดเงินค่าฮอร์โมนไปได้อีก
-                 
การลดต้นทุนเรื่องค่าฮอร์โมนและยาฆ่าแมลง จากการติดตามพฤติกรรมการทำนาของชาวนาบ้านเราผู้เขียนรู้สึก งงกับพฤติกรรมของชาวนาบ้านเรา ตั้งแต่เริ่มมีโครงการรับจำนำข้าว ข้าวนาบ้านเราเริ่มมีพฤติกรรมการใช้ยาฮอร์โมน สารเคมีที่มีราคาแพงจะเน้นยี่ห้อยาดังๆ ทั้งที่ยาบางตัวชื่อสามัญเหมือนกันแต่ต่างแค่บริษัทที่ผลิตชาวนากลับเลือกยาที่มีราคาแพงมากกว่า ทำให้ต้นทุนในการทำนาพุ่งสูงแตะ 8,000-10,000 บาท เลยทีเดียว แต่เดี๋ยวนี้ถ้ายังคงยึดติดกับสารเคมีที่มีราคาแพงเช่นนี้ ต้นทุนการทำนาแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่า ตายแน่ๆครับ การลดต้นทุนเรื่องยาฆ่าแมลง ทางชมรมเกษตรปลอดสารพิษจะส่งเสริมให้เกษตรกร ใช้จุลินทรีย์และสารสมุนไพรในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูข้าว เช่นปัญหาเรื่องโรคเชื้อราในข้าวต่างๆไม่ว่าจะเป็น โรคใบไหม้ ใบจุด เน่าคอรวง เมล็ดด่างเมล็ดลาย ให้ใช้จุลินทรีย์ที่ชื่อว่า พลายแก้ว ซึ่งสามารถหมักขยายเชื้อได้เพียงใช้เชื้อแค่ 5-10 กรัมก็สามารถฉีดได้3-5 ไร่เลยที่เดียว เช่นเดียวกับแมลงศัตรูข้าว เช่นหนอน เพลี้ย ต่างๆก็มีจุลินทรีย์ที่ชื่อ ทริปโตฝาจ ในการป้องกันกำจัด ใช้จุลินทรีย์ทริปโตฝาจแค่ตัวเดียวก็สามารถกำจัดได้ทั้งเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หนอนใบขาว หนอนกอ ได้เลย และเราสามารถใช้สมุนไพรในท้องทุนที่หาได้ เช่น เมล็ดสะเดา บอระเพชร ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชั้นต่างๆมาใช้ร่วมกับจุลินทรีย์เพื่อเป็นการเสริมฤทธิ์ช่วยป้องกันขัยไล่แมลงได้ผลค่อนข้างดี

วิธีการทำนาที่กล่าวมาข้างต้นตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้เป็นวิธีการทำนาที่ทำได้จริง เป็นวิธีที่จะช่วยให้ชาวนาอยู่ได้ ช่วยให้ชาวนายืนด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใครในยามที่บ้านเมืองวุ่นวาย ผู้เขียนอยากให้เกษตรกรชาวนาบ้านเราช่วยเหลือตัวเองให้ได้ก่อนในเวลานี้ วิธีที่ช่วยเหลือตัวเองได้ในตอนนี้ก็คือลดต้นทุนการทำนาลงเพื่อสู้กับราคาข้าวที่ตกต่ำ
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการลดต้นทุนการทำนาได้ที่ คุณจตุโชค จันทรภูมี(ผู้เขียน) โทร.085-9205846 หรือสอบถามได้ที่เจ้าหน้าที่ของชมรมเกษตรปลอดสารพิษ โทร.02-9861680-2

เขียนและรายงานโดย : นายจตุโชค จันทรภูมี
สอบถามเพิ่มเติมที่ 02-9861680-2 หรือ www.thaigreenagro.com
เขียนและรายงานเมื่อวันพุธที่ 07 มีนาคม 2557

ไม่มีความคิดเห็น: